สปสช.แจ้งประชาชนฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เกิดภาวะไม่พึงประสงค์ ตั้งแต่ 4 ก.ค. 65 สปสช.ช่วยเหลือเบื้องต้นเฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทอง ขณะที่ประชาชนที่มีสิทธิอื่น ให้ยื่นขอรับการช่วยเหลือที่หน่วยงานดูแลสิทธิการรักษา พร้อมเปิดข้อมูล 17 เดือน สปสช.เยียวยาแพ้วัคซีนแล้ว 17,559 ราย เป็นเงินกว่า 2,083 ล้านบาท   

วันที่ 10 กันยายน 2565 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า ตามที่ สปสช.ได้ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้ที่เกิดภาวะไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับวัคซีนที่ประชาชนได้รับการฉีดฟรีทุกสิทธิการรักษา ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดย สปสช.ได้ออกประกาศเรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 และมีผลย้อนหลังถึงวันที่ 5 เมษายน 2564 นั้น   

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ลดความรุนแรงลง และเตรียมเข้าสู่โรคประจำถิ่น ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 ได้ปรับหลักเกณฑ์ แนวทางการจ่ายชดเชยบริการโควิด-19 ตามแผนปรับโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น พร้อมกำหนดให้บริการกรณีโควิด-19 ซึ่งรวมถึง “กรณีการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้ที่เกิดภาวะไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนโควิด-19” ให้เบิกจ่ายจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในหมวดรายการที่เกี่ยวข้อง จากเดิมเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณ พ.ร.ก.กู้เงินฯ และจำกัดการดูแลเฉพาะผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง จากเดิมที่เป็นการดูแลครอบคลุมประชาชนทุกสิทธิการรักษา  

“ผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 ในกรณีที่แพ้วัคซีน สปสช.จะดูแลเฉพาะผู้ใช้สิทธิบัตรทองเท่านั้น สำหรับผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เป็นสิทธิรักษาพยาบาลอื่น ให้ยื่นเรื่องกับหน่วยงานตามสิทธิรักษาพยาบาลของตนเอง เช่น กรณีผู้ประกันตน ให้ยื่นเรื่องที่สำนักงานประกันสังคม ฯลฯ ซึ่งจะได้รับการดูแลช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์สิทธินั้นๆ”  

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ในกรณีที่มีผู้ที่เกิดภาวะไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งฉีดวัคซีนโควิดตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา และได้ยื่นคำร้องมายัง สปสช. ก่อนหน้านี้แล้ว ทาง สปสช.จะรวมรวมคำร้องทั้งหมดนี้ และส่งต่อให้กับหน่วยงานที่ดูแลสิทธิการรักษาพยาบาลของท่าน อย่างไรก็ตามขอย้ำว่า การดำเนินการนี้ สปสช. ได้เปลี่ยนแปลงการดำเนินการที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในการปรับเป็นโรคประจำถิ่น 

ทั้งนี้ จากข้อมูลถึงปัจจุบัน (9 ก.ย. 65) มีประชาชนยื่นคำร้องขอรับการช่วยเหลือฯ ทั่วประเทศจำนวน 21,139 ราย เป็นผู้มีสิทธิบัตรทองมากที่สุด 12,065 ราย รองลงมาสิทธิประกันสังคม 4,691 ราย, สิทธิสวัสดิการข้าราชการ 3,910 ราย, สิทธิข้าราชการท้องถิ่น 330 และยังมีคำร้องที่เป็นสิทธิรักษาพยาบาลอื่น ทั้งนี้มีจำนวนผู้ที่เข้าหลักเกณฑ์รับการช่วยเหลือฯ 17,559 ราย และอยู่ระหว่างรอการพิจารณา 406 ราย ในจำนวนผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือฯ แยกเป็นกรณีเสียชีวิตทุพพลภาพ 4,441 ราย พิการหรือสูญเสียอวัยวะ 505 ราย และบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง 11,331 ราย โดยรวมเป็นเงินช่วยเหลือทั้งสิ้น 2,083,680,900 บาท 

“ในช่วง 17 เดือนที่ผ่านมา ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชน โดยข้อมูลล่าสุด (8 ก.ย. 65) ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้วจำนวน 142.93 ล้านโดส ให้กับประชาชนจำนวน 31.9 ล้านคน ในจำนวนนี้ผู้มีแพ้วัคซีนโควิดและได้รับการช่วยเหลือจำนวน 17,559 คน คิดเป็นร้อยละ 0.05 ของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน” โฆษก สปสช. กล่าว 
   
 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand