รองนายกฯ-รมว.สธ.ชื่นชมบุคลากรสาธารณสุขทุกคน มีทีมที่เก่ง พร้อมกับได้รับความร่วมมือจากประชาชน ช่วยผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤตโควิด ชี้การสาธารณสุขไทย มีความเข้มแข็งมาก และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ล่าสุดไทยเป็นศูนย์กลางดาต้าระดับภูมิภาค หลังตั้งศูนย์อาเซียนรับมือโรคระบาด 

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์พิเศษถึงเหตุปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยระบุว่า ส่วนสำคัญต้องชื่นชมความพยายามอย่างหนักของบุคลากรสาธารณสุขทุกท่าน เรามีทีมที่เก่งมาก ไปจนถึงความร่วมแรงร่วมใจของประชาชน ที่ช่วยประคับประคองสถานการณ์ สิ่งเหล่านี้ คือจุดเด่นของประเทศไทย เมื่อมาบวกกับพื้นฐานทางระบบสุขภาพของไทยที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ทำให้สามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีโจทย์ยาก และท้าทายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2562 ทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง ได้เกิดเหตุอุทกภัยใหญ่ กระทรวงสาธารณสุข ต้องเข้าไปดูแลสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะช่วงน้ำลด ซึ่งการช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นๆ ก็ลดลงตามสถานการณ์ เพราะต้องสับเปลี่ยนไปดูแลเหตุอื่นๆ แต่กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องปักหลัก เพื่อให้ประชาชน กลับมามีสุขภาพเป็นปกติมากที่สุด 

ต่อจากนั้น ได้เผชิญกับโควิด-19 ทันที ตรงนี้เอง ที่ได้เห็นความทุ่มเทของพี่น้องชาวกระทรวงสาธารณสุข  ที่รวมถึง อสม. และภาคส่วนอื่น พร้อมกันนั้น ยังได้เห็นความเสียสละของพี่น้องประชาชน ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องขอบคุณมากๆ กับความช่วยเหลือที่เกิดขึ้น ที่ทำได้ในฐานะผู้บริหารคือ การสนับสนุนทั้งขวัญกำลังใจคนทำงาน ไปจนถึงสนับสนุนการช่วยเหลือป้องกัน ดูแล รักษาผู้ป่วย ได้มีการบรรจุข้าราชการเพิ่มเติม เพราะทราบว่าตอนนั้น งานหนักเป็น 2-3 เท่า ทั้งเรื่องโควิด-19 ทั้งเรื่องงานบริการประชาชน จำเป็นต้องเพิ่มกำลังรบด้านสุขภาพ ไปจนถึงขวัญกำลังใจคนทำงาน ส่วนแพทย์ พยาบาล เมื่อมีข้อเสนอเข้ามา ผู้บริหารจะเร่งนำเสนอ และรัฐมนตรีนำเรื่องเข้า ครม.ทันที ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้เข้ามาสนับสนุนความช่วยเหลือ ต้องขอบคุณท่านเช่นกัน

งานของกระทรวงสาธารณสุข มากกว่าเรื่องโควิด -19 แต่ต้องยกระดับงานบริการประชาชนไปพร้อมกัน เราได้เพิ่มสิทธิ์การรักษาพยาบาลไปจนถึงเรื่องของโรคหายายาก เดินหน้าโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ฟอกไตฟรี นี่เป็นเรื่องใหญ่ เพราะมันช่วยได้มากมาย จากที่ต้องจ่ายค่าฟอกไต จนสิ้นเนื้อประดาตัว ตอนนี้ ได้ฟอกแบบไม่มีค่าใช้จ่าย จำนวนมหาศาล มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ต้องขอบคุณแพทย์และผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่นำเรื่องนี้มาเสนอ และช่วยกันปฏิบัติจนสำเร็จ ไปจนถึงนโยบายผ้าอ้อมผู้ใหญ่ฟรี ก็เดินหน้าไปแล้ว 

“การสาธารณสุขไทย ถือว่ามีความเข้มแข็งมาก และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ล่าสุด ไทยได้ผ่านการจัดประชุมใหญ่ที่รัฐมนตรีสาธารณสุข จากเขตเศรษฐกิจเอเปค มาหารือกันที่กรุงเทพฯ ตรงนั้นสะท้อนภาพความมั่นใจ ที่นานาชาติมีให้ไทย แล้วไทยยังได้รับความเชื่อมั่นให้ตั้งสำนักงานสำนักงานเลขาธิการของศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED) ซึ่งแปลว่าไทย จะได้รับข้อมูลจากทั่งภูมิภาค นี่คือทรัพยากรที่สำคัญ ในการรับมือวิกฤตสุขภาพในอนาคต ขณะเดียวกัน ไทยยังได้เป็นที่ตั้งของศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงอายุ (ACAI) อีกด้วย เหล่านี้ คือ สิ่งที่โลกมองมายังไทย แล้วมันก็ตอบได้ว่า ระบบสุขภาพของไทย อยู่ในระดับที่สากลยอมรับในความสามารถ” 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org