"อนุทิน" จับมือกองบังคับการปราบปรามฯ ตั้งโต๊ะแถลงพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) จับกุมขายยาต้านไวรัสฯรักษาโควิดผิดกฎหมาย ย้ำไม่ใช่ทุกคนต้องได้ยาต้านไวรัส ขึ้นกับดุลยพินิจแพทย์ แจงข้อบ่งชี้ห้ามใช้โมลนูฯ ในกลุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปี และคนท้อง
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า วันที่ 4 ส.ค.นี้ เวลา 08.30 น. สธ.ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) จะมีการแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายยารักษาโควิดเถื่อน ซึ่งเป็นการขายยาโมลนูพิราเวียร์ทางออนไลน์จากประเทศอินเดียที่ไม่มีใบรับรอง ซึ่งการซื้อยาออนไลน์มีความเสี่ยงเพราะไม่รู้ว่าเป็นยาจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่แป้ง ซึ่งการแถลงข่าวคงมีรายละเอียดมากขึ้น
"ย้ำว่าไม่ควรซื้อยาออนไลน์กินเอง ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นยาควบคุมพิเศษที่ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและสั่งจ่ายยาโดยแพทย์ จะมีความปลอดภัย ต้องเลิกคิดว่าเป็นโควิดหาหมอแล้วไม่ให้ยา เลยซื้อมาตุนสำรองไว้ที่บ้าน โรคโควิดต้องไม่รักษาตัวเองแบบนี้ ต้องให้แพทย์รักษา กินยาตามคำสั่งแพทย์ อย่าสร้างค่านิยมว่าโรคนี้มียานี้แล้วไปซื้อมาเก็บไว้เอง ถ้าไปซื้อร้านขายยา เภสัชกรยังมีข้อแนะนำ แต่ยาโมลนูพิราเวียร์ยังไม่ให้มีการขายในร้านขายยาด้วยซ้ำ" นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนกรณีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ที่ตั้งคำถามในรายการว่าโมลนูพิราเวียร์มีราคาถูกกว่ายาฟาวิพิราเวียร์ ทำไมจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ไม่จ่ายยาโมลนูพิราเวียร์ ก็ต้องชี้แจงว่า ยาโมลนูพิราเวียร์เราไม่ให้ในเด็กต่ำกว่า 18 ปีและหญิงตั้งครรภ์ ขณะนี้มีการเปิดเรียน มีการเดินทางสัญจรมากขึ้น ดังนั้น เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีหากติดเชื้อก็ต้องรับยาฟาวิพิราเวียร์ ส่วนที่ระบุว่ามีผลต่อตับนั้นก็ไม่จริง หากรับประทานตามแพทย์สั่งก็จะไม่มีปัญหาใดๆ
"ผู้ป่วยโควิดตอนนี้ หากติดเชื้อควรไปพบแพทย์ ซึ่งย้ำว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ยาต้านไวรัสโมลนูพิราเวียร์หรือฟาวิพิราเวียร์ ขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ หากเห็นว่าไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย ก็อาจไม่ให้ยาหรือให้เพียงยารักษาตามอาการ ซึ่งเชื้อนี้จริงๆ ก็หายใน 7-10 วัน ทุกอย่างขอให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งที่ต้องพูดเรื่องนี้เนื่องจากกลัวเข้าใจผิดว่า ทำไมไม่ได้ยา มีความเหลื่อมล้ำหรือไม่ จริงๆ ไม่ใช่ รับรองว่าไม่มี เราใช้ยาตามข้อบ่งชี้ภายใต้การวินิจฉัยโรคและจ่ายยาของแพทย์ องค์การเภสัชกรรมก็เตีรยมยาไว้พร้อม ไม่ได้ขาดแคลน" นายอนุทินกล่าว
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 7351 views