เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ได้ระบุข้อความว่า ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครองให้ พรบ.กัญชาออกมาดี ก่อนอื่นผมขอให้กำลังใจ อาจารย์สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ จากคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี และทุกคนที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องกัญชา รวมทั้งราชวิทยาลัย สมาคมต่างๆที่เกี่ยวข้อง ราชบัณฑิตสถาน ซึ่งมีความน่าเชื่อถือในฐานะเป็น authority ด้านวิชาการ แพทยสภา ซึ่งเป็นสภากติการักษาสุขภาพของประเทศ และองค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ที่ออกมาชี้แนะเกี่ยวกับนโยบายกัญชา
ผมจำได้ เมื่อทีมงานโครงการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ที่ท่านอาจารย์ อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ และท่านอาจารย์ประเวศ วะสี ชวนผมมาร่วมเป็นทีมงาน เมื่อปี พศ 2529 ผมถามว่าทำไมจึงอยากให้ผมมาช่วย ได้รับคำตอบว่า “การรณรงค์/ขับเคลื่อนเรื่องหนึ่งๆ ต้องมี “Content expert” (ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา) ประกิตเป็นหมอโรคปอด เมื่อพูดอันตรายการสูบบุหรี่ต่อปอด คนไม่ต้องมาเถียงประกิต”
ในการทำงานต่อๆมา อันตรายของการสูบบุหรี่ต่อหัวใจ ผมก็ขอให้หมอหัวใจเป็นคนพูด ต่อสมองก็ขอให้ประสาทแพทย์พูด ต่อเด็กก็ขอให้หมอเด็กพูด ต่อผิวหนังก็ขอให้หมอผิวหนังพูด เรื่องสูบบุหรี่ทำให้เซ็กซ์เสื่อม ยังไปขอให้หมอทางเดินปัสสาวะเป็นคนพูด ฯลฯ เพราะเป็นนักวิชาการที่มีประสบการณ์ตรงกับเรื่องนั้น ๆ
เรื่องกัญชา ผลกระทบทันที/เกิดเร็วคือ ต่อจิตประสาท พัฒนาการสมอง พฤติกรรมมึนเมา นำไปสู่อุบัติเหตุ เสพเกินจนเสียชีวิต ฯลฯ เป็นสิ่งที่สังคมจับต้องได้และเป็นห่วงผลกระทบต่อปอดแม้จะมีมาก แต่เป็นผลกระทบระยะยาว พูดไปวันนี้ คนก็ไม่สนใจ เป็นคำตอบต่อคนที่มาถามว่า เมื่อไรผมจะรณรงค์เรื่องการไม่สูบกัญชา
ผมดีใจที่ราชวิทยาลัยจิตแพทย์ กุมารแพทย์ สถาบันวิชาการเสพติด และองค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับเด็กออกมาบอกสังคมถึงสิ่งที่เขาเป็นห่วงเรื่องการควบคุมกัญชา แต่ “สงครามยังไม่สิ้นสุด อย่าเพิ่งนับศพทหาร” เมื่อได้เสนอประเด็นที่เป็นห่วงต่อทางการที่เกี่ยวข้องและเขารับว่า จะพิจารณาสิ่งที่พวกเราเป็นห่วง งานของพวกท่านยังไม่จบ ท่านต้องเฝ้าติดตามความเป็นไปต่อไป
ผมเข้าใจว่า เมื่อกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบกัญชาเสร็จ ต้องเสนอสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบ หากผ่านสภาผู้แทนราษฏร ต้องต่อไปที่วุฒิสภาพิจารณากลั่นกรองอีกที หากวุฒิสภามีข้อเสนอที่จะต้องปรับปรุง ก็ต้องมีการตั้งกรรมาธิการร่วมระหว่าง 2 สภา พิจารณาเพื่อให้พรบ ออกมาดีที่สุด
จึงยังมีอีกหลายโอกาส ที่ฝ่ายที่เสนอความเป็นห่วง จะมีส่วนแสดงความคิดเห็น ขอให้แก้ใขและสิ่งที่ผมอยากจะฝากกรรมาธิการวิสามัญร่างพรบกัญชา และสมาชิกรัฐสภาทั้ง 2 สภาคือ ขอให้เปิดใจถึงความตั้งใจดี ตั้งใจจริง ขององค์กรวิชาชีพ องค์กรอื่นๆที่ทำงานเกี่ยวกับเด็ก ที่ได้เสนอความเป็นห่วง และข้อเสนอแนะ บุคคล องค์กรเหล่านี้ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงอื่นใด นอกจากความหวังดีต่อส่วนรวม เมื่อได้รับปากว่าจะพิจารณาข้อเสนออย่างรอบคอบ ก็ขอให้ทำตามที่ได้รับปากไว้ และหวังว่า พรบ.กัญชา จะผ่านออกมา ที่จะตอบสังคมได้อย่างเต็มพากภูมิว่า เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติอย่างแท้จริง
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ได้รับรางวัล Dr.LEE Jong-Wook Memorial Prize for Public Health 2022 จากองค์การอนามัยโลก (WHO) โดย นพ.จอส ฟอนเดลาร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย เป็นผู้นำโล่รางวัลมามอบให้ ที่อาคารสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาวะ (สสส.) เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2565
- 620 views