สปสช.ย้ำ!  ตรวจสุขภาพสิทธิ์บัตรทองทำได้ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ต้องตรวจตามกลุ่มวัยที่กำหนด เพื่อหาปัจจัยเสี่ยง แบ่งเป็น  5 กลุ่มวัย “หญิงตั้งครรภ์ -กลุ่มเด็กเล็กอายุ 0.5 ปี -กลุ่มเด็กโตและวัยรุ่นอายุ 6-24 ปี -กลุ่มผู้ใหญ่อายุ 25-59 ปี -กลุ่มผู้สูงอายุ  60  ปีขึ้นไป”   สามารถเข้ารับบริการ คลินิก- รพ.ใกล้บ้าน จองคิวผ่านแอปฯ “เป๋าตัง”  พร้อมปรับสิทธิประโยชน์อายุ 45 ปีขึ้นไปตรวจ “ไขมันในเลือด” ไม่ต้องรอซักประวัติเริ่มปี 66

 

ตามที่มีผู้ใช้สิทธิ์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า(บัตรทอง) บางส่วนสอบถามมายังสำนักข่าว Hfocus ถึงกรณีการตรวจสุขภาพประจำปีของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)  ว่า มีสิทธิ์รับบริการเหมือนประกันสังคมหรือไม่ เนื่องจากบางส่วนเมื่อได้สอบถามไปยังสายด่วนบัตรทอง 1330 พบว่า ยังมีข้อจำกัด อาทิ การตรวจสุขภาพอาจต้องมีอาการสงสัยหรือต้องให้แพทย์ซักประวัติตามดุลยพินิจแพทย์ก่อน  รวมทั้งจะสามารถเข้าตรวจสุขภาพได้เฉพาะโรงพยาบาลตามสิทธิ์ที่ตนเองมีชื่ออยู่ หรือเข้าได้ทุกแห่งที่เป็นคู่สัญญาของบัตรทองนั้น

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ให้สัมภาษณ์ Hfocus ถึงเรื่องนี้ ว่า  สปสช.นอกจากให้สิทธิ์การรักษาพยาบาลผู้ป่วยบัตรทองทุกคนแล้ว ยังมีหมวดการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค หรือ การตรวจสุขภาพโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่เป็นการตรวจสุขภาพตามกลุ่มวัยที่มีปัจจัยเสี่ยง ซึ่งเกณฑ์แต่ละกลุ่มวัยได้ผ่านการพิจารณาของกระทรวงสาธารณสุข โดยหากอยู่ในกลุ่มวัยที่กำหนด จะมีลิสต์การตรวจอาการ หรือความเสี่ยงของการเกิดโรคนั้นๆ และผู้ที่มีสิทธิ์บัตรทองสามารถเข้ามาตรวจหรือรับบริการได้ เช่น การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก การตรวจมะเร็งเต้านม เป็นต้น

“โดยหลักสามารถตรวจที่ไหนก็ได้ แต่เน้นหน่วยบริการใกล้บ้านจะสะดวกที่สุด ซึ่งผู้มีสิทธิ์สามารถเข้าไปจองคิวการตรวจผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”  เข้าไปในกระเป๋าสุขภาพ ซึ่งจะมีรายละเอียดว่า เราอยู่ในกลุ่มวัยไหน สามารถตรวจอะไรได้บ้าง พร้อมทั้งมีหน่วยบริการให้เลือกในการเข้ารับบริการ” นพ.จเด็จ กล่าว

 นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในปี 2566 จะมีการเปิดช่องทางการตรวจหาไขมันในเส้นเลือดสำหรับผู้มีสิทธิ์บัตรทองที่อายุเกิน 45 ปีขึ้นไป ให้สามารถขอเข้ารับการตรวจได้ทันทีในโรงพยาบาลคู่สัญญาทุกแห่ง ทั้งนี้ เนื่องจากเดิมคนอายุ 40-45 ปีหากจะตรวจเบาหวาน ความดันโลหิต ความเสี่ยงที่จะเป็นไขมันในเลือดนั้น จะต้องได้รับการซักประวัติ วินิจฉัยอาการก่อน ซึ่งหากไม่มีความเสี่ยงก็จะไม่ได้ตรวจ แต่จากการประเมินโดยโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ หรือ ไฮแทป (HITAP) พบว่า ขั้นตอนเหล่านี้ทำให้กว่าจะได้ตรวจค่อนข้างช้า

“สปสช.จึงปรับเกณฑ์ใหม่ในปี 2566 ผู้ที่อายุเกิน 45 ปีจะสามารถตรวจหาไขมันในเส้นเลือดได้ทันที ไม่ต้องรอซักประวัติ ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับหน่วยบริการต่างๆของบัตรทองเกี่ยวกับการรับบริการตรงนี้ ซึ่งมีความพยายามให้สามารถตรวจได้ทุกแห่ง เน้นใกล้บ้านของผู้รับบริการเป็นหลัก โดยสปสช.จะเบิกจ่ายให้ทางรพ. ส่วนประชาชนบัตรทองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ส่วนที่อาจมีการสื่อสารไม่ชัดเจนกรณีต้องมีอาการแล้วจึงไปขอตรวจสุขภาพนั้น ขอยืนยันว่า ไม่ใช่ เพราะหากมีอาการ เข้าข่ายการรักษา ซึ่งสามารถรักษาได้ทุกที่อยู่แล้ว ณ ขณะนี้ แต่หากตรวจคัดกรองเพื่อหาโรคจะเป็นไปตามกลุ่มวัยว่าต้องตรวจอะไรบ้าง เนื่องจากแต่ละช่วงอายุจะมีความเสี่ยงการเกิดโรคไม่เหมือนกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการคัดกรองหรือตรวจสุขภาพตามกลุ่มวัยที่มีปัจจัยเสี่ยงที่กำหนด แบ่งเป็น กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มเด็กเล็กอายุ 0.5 ปี กลุ่มเด็กโตและวัยรุ่นอายุ 6-24 ปี กลุ่มผู้ใหญ่อายุ 25-59 ปี และกลุ่มผู้สูงอายุ  60  ปีขึ้นไป  โดยสามารถสอบถามรายละเอียดสายด่วน 1330 หรือ เข้าไปในเว็บไซต์ของสปสช.  www.nhso.go.th      โดยไปที่แถบสำหรับประชาชน จากนั้นกดเข้าไปตรง “คู่มือผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพ” และกดในแถบ “การบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค”  จะมีการแบ่งการคัดกรองโรค หรือตรวจสุขภาพตามกลุ่มวัยทั้งหมด  

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org