ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กำหนดแนวทางปฏิบัติการรับบริจาคโลหิต ในสถานการณ์การระบาด COVID-19 เพื่อให้มีโลหิตเพียงพอปลอดภัยทั้งผู้บริจาคโลหิตและผู้ป่วยทั่วประเทศ

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ  เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติมจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ร่วมกับ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จึงกำหนดแนวทางปฏิบัติการรับบริจาคโลหิต ในสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ดังนี้

  1. ผู้บริจาคโลหิตคัดกรองและประเมินตนเองก่อนมาบริจาคโลหิต เพื่อความปลอดภัยของท่านและส่วนรวม
  2. กรณีได้รับวัคซีน COVID-19 ให้เว้น 7 วัน หรือหากมีอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน เมื่อหายแล้ว ให้เว้น 7-14 วัน จึงจะบริจาคโลหิตได้
  3. ผู้ที่ติดเชื้อ COVID-19 แต่ไม่แสดงอาการใดๆ งดบริจาคโลหิต 10 วัน หลังตรวจพบเชื้อ
  4. ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง งดบริจาคโลหิต 5 วัน ดังนี้ 

            ● ผู้ที่ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย หรือไม่ได้สวมชุด PPE เมื่อสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย

            ● ผู้ที่อยู่ใกล้ พูดคุยกับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในระยะ 2 เมตร นานกว่า 5 นาที

            ● ผู้ป่วย ไอ จาม ใส่ โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย

            ● ผู้ที่อยู่ในสถานที่ปิด ไม่มีอากาศถ่ายเทร่วมกับผู้ติดเชื้อ COVID-19 นานกว่า 30 นาที

     5. ผู้ป่วย COVID-19 งดบริจาคโลหิต 14 วัน นับตั้งแต่หายป่วย ไม่มีอาการใดๆ หลงเหลืออยู่

     6. กรณีติดเชื้อ COVID-19 ภายใน 7 วัน หลังการบริจาคโลหิต ให้แจ้งหน่วยงานที่รับบริจาคโลหิตทราบทันที

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org