กรมควบคุมโรคชี้กินอุจจาระ ปัสสาวะรักษาโรคไม่ถูกต้อง อันตรายรับเชื้อโรค ขณะที่จิตแพทย์เผยความเชื่อเหล่านี้เข้าข่ายงมงาย ประกอบหลงผิด เผย 3 สาเหตุทำให้คนเชื่อ
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2565 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีลัทธิประหลาดกินปัสสาวะ - อุจจาระ รักษาโรค ว่า เรื่องนี้ขอตอบในหลักวิทยาศาสตร์ว่า ปกติในอุจจาระปัสสาวะร่างกายของคนเรา เป็นของเสียที่ถูกขับออกมา ในอุจจาระ มีเชื้อโรค แบคทีเรีย มีพยาธิ เชื้อรา แม้ปัสสาวะ จะเป็นผ่านการกรองจากร่างกาย แต่ก็ไม่สมควรรับประทานอยู่ดี ปกติคนที่มีโรค หรือ มีการติดเชื้อทางเดินทางอาหาร การรับประทานอุจจาระก็สามารถได้รับเชื้อโรคจากอุจจาระได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่รับประทานทั้งอุจจาระ และ ปัสสาวะ เสมหะ หรือ หนองเข้าไปแล้วรู้ผิดปกติ ก็ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการตรวจ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่สมควรบริโภค
ด้าน นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ความเชื่อที่เกิดขึ้นนี้ จากการกินอุจจาระ ปัสสาวะ นี้เป็นความเชื่อที่ขาดหลักเหตุผล เข้าข่ายงมงาย สาเหตุเกิดจากคนมี 3 ภาวะที่เป็นสาเหตุ คือ 1. มีความทุกข์มาก 2. วัฒนธรรมความเชื่อเฉพาะถิ่น มีไสยศาสตร์มาเกี่ยวข้อง และ 3. อิทธิพลจากเพื่อนหรือคนรอบข้างเป็นแรงเสริม ถ้ามี 3 อย่างนี้จะถือว่าเป็นความเชื่อที่เป็นความงมงายที่รุนแรง ยิ่งมีการรวมกลุ่มกัน ยิ่งเป็นการเสริมความเชื่อซึ่งกันและกัน ให้เกิดการสนับสนุนความเชื่อซึ่งกันและกัน วิธีการสลายความเชื่อนี้ ต้อง มีการสลายกลุ่ม โดยเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องเข้ามาช่วยเหลือดูแล
“ สำหรับความเชื่อที่งมงายแบบนี้ มีความหลงผิดเข้ามามีส่วนร่วม โดยอาจเป็นคนที่หลอกให้เชื่อ หรือ คนที่ถูกหลอกก็มีความหลงผิด ดังนั้นเมื่อรัฐเข้ามาจัดการก็อาจนำคนเหล่านี้ มาบังคับบำบัดรักษาได้ แต่หากไม่แล้ว โดยปกติคนเหล่านี้ไม่ได้ก่อเรื่องเดือดร้อนรำคาญ ก็จะไม่ถูกจับหรือ นำตัวเข้ามาบำบัดรักษา หากมองเรื่องนี้ก็ถือเป็นโอกาสอันนี้ที่จะได้นำเข้าสู่กระบวนการรักษา” นพ.ยงยุทธ กล่าว
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 891 views