อย.เผยคืบหน้าวัคซีนสัญชาติไทย  “ChulaCov19” ทยอยส่งเอกสารขออนุญาตขึ้นทะเบียนผลิตโดยโรงงานไทย ขณะที่วัคซีนตัวอื่นๆต่ออายุใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว

 

เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะผู้ศึกษาวิจัยวัคซีน ChulaCov19 ชนิด m-RNA ของ ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ทยอยส่งเอกสารขออนุญาตขึ้นทะเบียนผลิตวัคซีนโดยโรงงานในประเทศไทย โดบริษัทไบโอเน็ตเอเชีย เพื่อนำไปทดสอบในคนระยะที่ 1 จากเดิมที่ขอขึ้นทะเบียนผลิตในโรงงานที่ต่างประเทศ เมื่อเปลี่ยนโรงงานผลิตจึงต้องมาขออนุญาตขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตแห่งใหม่เพิ่มเติม เบื้องต้นมีการส่งเอกสารประกอบเข้ามาเรื่อย ๆ ทาง อย.ยังไม่ต้องขอข้อมูลอะไรเพิ่ม การพิจารณาก็อยู่ที่ว่าทางคณะผู้วิจัยจะขึ้นทะเบียนใช้อย่างไร จะใช้เป็นเข็ม 1 เข็ม 2 หรือเข็มกระตุ้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ต้องมาเริ่มที่เฟส 1 ต้องเริ่มในคนที่มีสุขภาพดี

 

เมื่อถามว่าขณะนี้มีวัคซีนป้องกันโควิด – 19 ตัวอื่นๆ มายื่นทะเบียนเพิ่มเติมหรือไม่ นพ.ไพศาล กล่าวว่า ที่เพิ่งมีการขึ้นทะเบียนไปเมื่อเร็วๆ นี้มีวัคซีนโคโวแวกซ์ นอกจากนี้วัคซีนตัวอื่นๆ ที่ขึ้นทะเบียนในประเทศไทยไปก่อนหน้านี้ ซึ่งใบอนุญาตจะมีอายุ 1 ปี นั้น ทุกตัวได้มีการมาต่ออายุใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชาสัมพันธ์ให้ผู้รับผิดชอบมาดำเนินการยื่นเรื่องปรับการขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดต่างๆ เป็นวัคซีนที่ใช้ในสถานการณ์ทั่วไป จากปัจจุบันที่ยังเป็นการขึ้นทะเบียนใช้ในภาวะฉุกเฉิน เหมือนที่อเมริกาที่มีการปรับขึ้นทะเบียนวัคซีนไฟเซอร์เป็นการใช้ในสถานการณ์ปกติ เพราะขณะนี้มีข้อมูลน่าจะมีครบแล้ว 

 

เมื่อถามว่าหากมีการปรับขึ้นทะเบียนเป็นวัคซีนที่ใช้ในสถานการณ์ทั่วไปแล้วเท่ากับว่าเอกชนสามารถนำเข้าได้เองใช่หรือไม่ นพ.ไพศาล กล่าวว่า ได้ แต่ขึ้นอยู่กับทางบริษัทผู้ผลิตจำหน่ายว่าจะมีการเจรจาขายกันหรือไม่ อย่างไร แต่ตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นการขายให้รัฐ

 

ภาพจากคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org