“อนุทิน” ขอประชาชนเชื่อหมอให้ยารักษาโควิดเป็นไปตามข้อบ่งชี้ ลั่นขอให้ฟังข้อมูลทางการจากกระทรวงสาธารณสุข เหตุช่วงที่ผ่านมาเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากบุคคลไม่เกี่ยวข้อง แม้จะเคารพความเห็นทุกฝ่าย แต่ข้อมูลกระทรวงฯ ทางการที่สุดแล้ว

 

เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การนำเข้ายาแพกซ์โลวิดปริมาณน้อย ทั้งที่เป็นยาตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพ  ว่า เรารักษาผู้ป่วยโควิดมามากกว่า 2 ล้านคน ผู้ป่วยโควิดแต่ละท่านมีอาการของโรคแตกต่างกันไป ซึ่งดีที่ผู้ติดเชื้อตอนนี้ไม่มีอาการรุนแรง ดังนั้น ยาแต่ละขนานที่แพทย์ให้ ขอให้มั่นใจว่าแพทย์ได้ใช้การวินิจฉัยโรคตามหลักวิชาการทุกอย่าง เราต้องไม่ไปแย่ง ต้องไม่ไปบอกแพทย์ว่าต้องกินยาอะไร

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า  เราเป็นคนป่วยต้องเชื่อแพทย์ แพทย์จะให้ยาที่ดีที่สุดกับผู้ป่วย ไม่มีคำว่าขี้เหนียว หรือเก็บรักษายาไว้ให้ใครคนใดคนหนึ่ง ทุกอย่างเป็นไปตามการรักษาโดยดุลยพินิจของแพทย์ และยาทุกชนิดที่นำมาใช้กับผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นฟาวิพิราเวียร์ เรมเดซิเวียร์  โมลนูพิราเวียร์ หรือที่จะเกิดขึ้นคือ แพกซ์โลวิค แม้กระทั่งยาแก้ไอ แก้ปวด ลดน้ำมูกทั่วไป ยาฟ้าทะลายโจร แพทย์จะใช้ดุลยพินิจ ไม่ใช่ทุกคนจะต้องรับฟาวิฯ หรือแพกซ์โลวิดทุกคน ยิ่งไม่ได้รับยิ่งถือว่าสุขภาพที่ดี อาการของโรคไม่รุนแรง ควรน่าดีใจ และจะได้เก็บยาเหล่านี้ไว้รักษาผู้ที่จำเป็น

 

 

“ซื้อไม่น้อยหรอกครับ ไม่ได้ซื้อครั้งนี้ครั้งเดียว ถ้าจำเป็นก็สามารถซื้อให้เพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วยได้ ทั้งนี้ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีความสับสนจากการให้ข่าวบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องในการให้ข่าวกับพี่น้องประชาชนในเรื่องการรักษา จึงต้องทำความเข้าใจ อยากให้สื่อมวลชนช่วยสื่อสารให้ชัดเจนว่า กระทรวงสาธารณสุข บุคคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานการแพทย์ทั้งหมดที่ให้การรักษาโควิด ได้ทำทุกอย่างตามแนวทางข้อตกลงทางการแพทย์ มีการกำหนดแนวทางเวชปฏิบัติหรือไกด์ไลน์รักษาผู้ป่วย” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน ย้ำว่า ดังนั้น ที่บอกว่าให้ยาไม่ได้ผลต่อผู้ป่วย ขอความกรุณาประชาชนว่า ข้อมูลที่เป็นทางการต้องมาจากกระทรวงสาธารณสุข ตัวผมเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการสธ. ให้ความเคารพต่อความเห็นบุคคลทุกคน ทั้งแพทย์ วิชาการ แต่ข้อมูลกระทรวงสาธาณสุขเป็นทางการ นำมาอ้างอิงได้ และเป็นข้อมูลที่มั่นใจได้ว่าถูกต้อง อะไรไม่ดีเราก็บอกไม่ดี อะไรที่ดี ที่ใช้ได้เราก็บอกว่าใช้ได้ จึงขอให้เชื่อข้อมูลกระทรวงฯ จะได้ไม่ตื่นตระหนกเกินเหตุ จะทำให้การไปเที่ยวสงกรานต์ไม่สนุกได้

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org