กรมการแพทย์ชี้ยารักษาผู้ป่วยโควิด 19 ผ่านการพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญ ยืนยันมีประสิทธิผลการรักษาต่อผู้ป่วยตามข้อบ่งชี้ พร้อมแนะฉีดวัคซีนป้องกันการเสียชีวิต

 

เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2565 นพ.สมศักดิ์  อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กรมการแพทย์ได้จัดทำแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง โดยความร่วมมือของคณาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่าง ๆ และผู้แทนทีมแพทย์ที่ปฏิบัติหน้างาน  และได้มีการปรับปรุงให้ทันต่อสถานการณ์ของโรคและผลการศึกษาวิจัยทั้งในและต่างประเทศเพื่อให้การรักษาผู้ป่วยโควิด 19 มีประสิทธิภาพสูงสุด

 

ทั้งนี้ ยืนยันกระทรวงสาธารณสุขได้มีการพิจารณานำยามาใช้รักษาผู้ป่วยโควิด 19 หลายประเภทผ่านการพิจารณาร่วมกันจากคณะทำงานเบื้องต้น โดยยาแต่ละประเภทมีประสิทธิผลในกลุ่มผู้ป่วยที่อาการแตกต่างกันตามข้อบ่งชี้ ในกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ อาการเล็กน้อย และไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรง ควรให้การรักษาแบบผู้ป่วยนอก โดยแยกกักตัวที่บ้าน (Out-patient with self isolation) หรือ home isolation หรือสถานที่รัฐจัดให้ตามความเหมาะสมให้ดูแลรักษาตามอาการตามดุลยพินิจของแพทย์ เนื่องจากส่วนมากหายได้เอง กลุ่มผู้ป่วยผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง/โรคร่วมสําคัญและภาพถ่ายรังสีปอดปกติ อาจพิจารณาให้ favipiravir ควรเริ่มยาโดยเร็ว หากตรวจพบเชื้อเมื่อผู้ป่วยมีอาการมาแล้วเกิน 5 วัน และผู้ป่วยไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยอาจไม่จําเป็นต้องให้ยาต้านไวรัส เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายได้เองโดยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน

ยาโมลนูพิราเวียร์ (ภาพจากกรมการแพทย์) 

 

นอกจากนี้ ยังมีการให้ยาต้านไวรัสชนิดอื่น อาทิ Remdesevir Molnupiravir และNirmatrelvir/ritonavir การให้การรักษา​​ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย​ ประวัติการรับวัคซีน​   ปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วย รวมทั้ง การพิจารณาชนิดของยาขึ้นกับดุลยพินิจ​ของแพทย์ผู้รักษา

 

อย่างไรก็ตาม  โรคโควิด 19 ยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากในประเทศไทย จึงขอแนะนำให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการดูแลตนเองสวมหน้ากากอนามัยล้างมือบ่อยๆเว้นระยะห่างไม่เข้าไปอยู่ในบริเวณที่มีคนแออัดและที่สำคัญควรฉีดวัคซีนให้ครบตามจำนวน ซึ่งขณะนี้ประชาชนสามารถเข้าถึงการฉีดวัคซีนได้ง่ายขึ้น นอกจากสถานพยาบาลที่ให้บริการฉีดวัคซีนแล้ว ยังมีการฉีดวัคซีนในห้างสรรพสินค้าหรือจุดฉีดวัคซีนที่สำคัญต่าง ๆ ทั่วประเทศ  โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์ เพื่อลดการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต

 

(ข่าวเกี่ยวข้อง : เปิดข้อเปรียบเทียบ "ยาโควิด-19 ในไทย" พร้อมค่าใช้จ่ายยาแต่ละชนิด(ผู้ป่วยไม่ต้องจ่าย))

 

ภาพจากกรมการแพทย์ 

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org