สธ.แจงตัวเลขปอดอักเสบรุนแรง เสียชีวิตสูงขึ้น เป็นไปตามระยะเวลาหลังจากผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นไปที่คาดการณ์ไว้ และอยู่ในระดับที่รับมือได้ โดยอัตราครองเตียงภาพรวมของประเทศอยู่ที่ 25.80% ซึ่งยังมีเตียงว่างอยู่อีกกว่า 75% โดยกรุงเทพฯมีอัตราครองเตียงมากสุด อยู่ที่ 31.40% แต่ระบบยังรองรับได้
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 มี.ค. 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงข่าวประเด็น :ประสิทธิผลวัคซีนจากการใช้จริงในการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ว่า สถานการณ์ติดเชื้อรายวันเฉลี่ย 14 วันอยู่ที่ 23,540 ราย โดยผู้ป่วยรุนแรงที่มีปอดอักเสบอยู่ที่ 1,464 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 514 ราย เสียชีวิตรายงานวันนี้ 88 ราย อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยปอดอักเสบไต่ลำดับต่อเนื่องมาจาก 2 สัปดาห์ที่แล้ว ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจก็เพิ่มขึ้นจาก 2 สัปดาห์เช่นกัน รวมทั้งตัวเลขเสียชีวิต เป็นที่ทราบกันดีว่า จำนวนผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตจะมีระยะเวลาตามหลังจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นที่คาดไว้ และอยู่ในระดับที่รับมือได้ในกราฟเส้นสีเขียว
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตวันนี้ 88 ราย เป็นชายและหญิงอย่างละ 44 ราย โดยมีปอดอักเสบรุนแรง 74 ราย ไม่ระบุปอดอักเสบ 14 ราย โดยกลุ่ม 608 อายุ 60 ปีขึ้นไป และมีโรคเรื้อรังสูงถึง 94% หรือ 83 ราย ซึ่งสิ่งที่ต้องย้ำคือในตัวเลข 88 ราย ปรากฎว่าไม่ได้รับวัคซีนถึง 46 ราย หรือ 52% ทั้งที่ในประเทศไทยได้วัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้ว 80% เข็มที่ 2 ก็ใกล้ๆกัน ซึ่งที่ยังไม่ได้ฉีดก็น่าจะประมาณ 20% แต่คนที่เสียชีวิตสูงถึง 50กว่าเปอร์เซ็นต์ที่ไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งน่าเสียดายที่ขาดโอกาสได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิผล จึงต้องขอให้มาฉีดวัคซีนกัน ส่วนการฉีดวัคซีนไม่ครบ หรือรับ 1 เข็ม มี 7 ราย หรือ 8% จากผู้เสียชีวิตวันนี้ 88 ราย
ทั้งนี้ ลักษณะทางระบาดวิทยาของผู้เสียชีวิตข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-19 มี.ค.65 จำนวน 2,464 ราย พบเป็นผู้สูงอายุเฉลี่ย 73 ปี แต่ยังมีคนอายุน้อยเช่นกัน น้อยสุดคือ 3 เดือน อายุมากที่สุด 107 ปี โดยมีผู้เสียชีวิตที่เป็นหญิงตั้งครรภ์ด้วยอีก 2 ราย ซึ่งเป็นอีกกลุ่มที่สำคัญต้องเน้นย้ำ สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตที่มีโรคประจำตัวมีถึง 2,135 ราย โดยโรคที่เจอมากสุด คือ ความดันโลหิตสูง รองลงมา เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไตเรื้อรัง โรคมะเร็ง โรคอ้วน ภาวะอุดกั้นปอดเรื้อรัง
"สำหรับผู้เสียชีวิตมีความเสี่ยงการรับเชื้ออย่างไรนั้น พบว่า สัมผัสผู้ติดเชื้อ แต่ชี้ไม่ได้ชัดเจนว่า ติดจากใคร เนื่องจากโอมิครอนติดเชื้อง่าย บางทีหาอาการยาก ได้แต่ประวัติว่าอยู่ในพื้นที่เสี่ยง จึงต้องมีมาตรการอื่นๆ อย่างการฉีดวัคซีนป้องกัน ดังนั้น ขอย้ำว่า ภาพรวมของผู้เสียชีวิต 57% ไม่ได้ฉีดวัคซีน ส่วนฉีด 2 เข็มมีประมาณ 31% เพราะเวลาฉีดวัคซีนวงกว้าง บางท่านมีโรคประจำตัว มีเหตุอย่างอื่น วัคซีนก็ไม่ได้ป้องกันเต็ม 100% แต่ถือว่าใกล้เคียง และป้องกันการเสียชีวิตได้มาก" นพ.เฉวตสรร กล่าว
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า กรณีปอดอักเสบกำลังรักษาในรพ. ระลอกเดือนม.ค.2565 วันที่ 14 มี.ค.-20 มี.ค. พบว่า กรุงเทพมี 193 รายที่ปออักเสบต้องนอนรพ. นอกนั้นจะต่ำกว่า 100 ราย ทั้งสมุทรปราการ 87 ราย นครราชสีมา 61 ราย และนครศรีธรรมราช 57 ราย อย่างไรก็ตาม อัตราการครองเตียงภาพรวมของประเทศอยู่ที่ 25.80% ซึ่งยังมีเตียงว่างอยู่อีกกว่า 75% จึงมีความพร้อมในการรองรับผู้ที่มีอาการหนักได้มากพอสมควร โดยกรุงเทพฯมีอัตราครองเตียงอยู่ที่ 31.40% สมุทรปราการอัตราครองเตียง 44% เป็นต้น
(ข่าวเกี่ยวข้อง : สธ.เปิดประสิทธิผลวัคซีนโควิดเข็ม 3 ป้องกันเสียชีวิตถึง 87% ส่วนเข็ม 4 ป้องกันติดเชื้อ 84.7% )
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 272 views