รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการ รพ.เกาะช้าง เร่งพัฒนาศักยภาพการสาธารณสุขทางทะเล สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว รองรับโรคโควิด 19 เข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น พร้อมเยี่ยมเสริมพลังอสม. เกาะช้าง
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2565 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขโรงพยาบาลเกาะช้าง จังหวัดตราด และกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้ โรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะ จัดระบบการสาธารณสุขทางทะเล โดยเฉพาะงานอุบัติเหตุฉุกเฉิน
การส่งต่อผู้ป่วยเพื่อไปรักษาบนฝั่งอย่างทันท่วงที ลดความเสี่ยงในการเสียชีวิต รวมทั้งเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวบนเกาะ สำหรับเกาะช้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของภาคตะวันออก ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก สร้างรายได้ปีละกว่า 10,000 ล้านบาท และขณะนี้ประเทศไทยได้เตรียมการปรับมาตรการต่างๆ ให้โรคโควิด 19 เข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น จึงต้องเร่งพัฒนาศักยภาพและระบบบริการการสาธารณสุขทางทะเล เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น
โดยโรงพยาบาลเกาะช้าง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชุมชนแห่งเดียวบนเกาะ และ รพ.สต.อีก 5 แห่ง ได้ทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายในการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ และร่วมจัดระบบการสาธารณสุขทางทะเลโดยทำงานในรูปแบบคณะกรรมการพัฒนาสาธารณสุขทางทะเลจังหวัดตราด ซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินเห่งชาติ ภาคท้องถิ่น ภาคเอกชน และผู้ประกอบการในพื้นที่ แบ่งการดูแลรับผิดชอบเฝ้าระวังนักท่องเที่ยวตามโซนต่างๆ หน้าหาด มีระบบประสานส่งต่อ ทั้งเรือโดยสาร เรือโรงพยาบาลเอกชน รถพยาบาลฉุกเฉิน และเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งมีจุดจอดบนเกาะถึง 6 จุด เพื่อส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลตราด โดยโรงพยาบาลเกาะช้างมีพยาบาลที่ผ่านการอบรมการลำเลียงทางอากาศ ถึง 8 คน นอกจากนี้ ได้สั่งการให้โรงพยาบาลเตรียมทำแผนปี 2566 ด้านการแพทย์ฉุกเฉิน และเพิ่มศักยภาพการดูรักษาประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงการพัฒนา รพ.สต.คลองพร้าว ให้มีศักยภาพในการดูแลรักษาประชาชนและนักท่องเที่ยวที่อยู่อีกฝั่งของเกาะ เช่น ให้มีแพทย์อยู่ประจำ, เพิ่มบริการตรวจรักษาแบบผู้ป่วยนอก, ทันตกรรม, กายภาพบำบัด, การแพทย์แผนไทย, อุบัติเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้ดูแลนักท่องเที่ยวได้ดียิ่งขึ้น ลดการเดินทางของผู้ป่วย และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการท่องเที่ยว
พร้อมกันนี้ ได้เยี่ยมเสริมพลัง อสม. อำเภอเกาะช้าง โดยเชิญชวนให้ อสม. สมัครเป็นสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม. เพื่อสร้างหลักประกันให้กับลูกหลาน กรณีหากเสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยาจำนวนทั้งสิ้น 440,000 บาท และให้ อสม.ทุกคนเป็นผู้นำทางสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย และปฏิบัติหน้าที่เป็นจิตอาสาด้วยความภาคภูมิใจ
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 325 views