ผอ.สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาลฯ เผยมาตรฐาน รพ.ฉบับ 5 กำหนดผู้ให้บริการต้องบันทึกประวัติการสูบบุหรี่ของผุ้ป่วย และต้องวางแผนการรักษาเลิกบุหรี่ด้วยวิธีการต่างๆ 

 

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พญ.ปิยวรรณ  ลิ้มปัญญาเลิศ  ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า  มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ฉบับที่ 5 (HA) กำหนดให้ผู้ให้บริการทางการแพทย์ในสถานพยาบาล ต้องมีการบันทึกประวัติการสูบบุหรี่ของผู้ป่วยทุกคน โดยผู้ป่วยที่สูบบุหรี่ต้องระบุในการวินิจฉัยโรคว่าเป็นโรคภาวะติดนิโคติน (nicotine dependence) และต้องมีการวางแผนการรักษาการเลิกบุหรี่ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การให้ความรู้ การเข้าร่วมโครงการเลิกบุหรี่  หรือการพิจารณาการใช้ยาเลิกบุหรี่ตามความเหมาะสม  รวมทั้งการให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการรักษาเพื่อเลิกบุหรี่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ชี้นำสถานพยาบาลให้เห็นความสำคัญและนำสู่การปฏิบัติ ทั้งนี้ ในระบบการกำหนดรหัสโรคสากล ICD-10-CM โรคภาวะติดนิโคติน (nicotine dependence)  มีรหัสโคด F17.210

 

“การซักถามประวัติผู้ป่วย แพทย์ พยาบาล จะสร้างการเรียนรู้เรื่องการซักประวัติ การวินิจฉัย รวมถึงการวางแผนการดูแลต่อเนื่องสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคภาวะติดนิโคติน และเชื่อมโยงกับโรคสำคัญต่าง ๆ ในกระบวนการดูแลรักษาจากกระบวนการตามรอย ซึ่งจะทำให้ แพทย์ พยาบาล และบุคลากรที่เกี่ยวข้องเห็นความสำคัญและกำหนดแนวทางการดูแลผู้ป่วยดังกล่าวอย่างเป็นระบบต่อไป” พญ.ปิยวรรณ กล่าว

พญ.ปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศ

 

ด้านนพ.ชยนันท์  สิทธิบุศย์ ผู้อำนวยการกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า มาตรฐาน HA ที่กำหนดใหม่นี้ จะทำให้เกิดวัฒนธรรมที่ผู้ให้บริการผู้ป่วยทุกคน มีการบันทึกประวัติการสูบบุหรี่ การวินิจฉัยโรคภาวะติดนิโคติน และการวางแผนการรักษาอย่างเป็นขั้นตอน ซึ่งการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ระดับโลกของประชากรไทย ปี 2554 พบว่า ในจำนวนผู้สูบบุหรี่ 13  ล้านคน มี 34.6% หรือ 4.1  ล้านคนที่เข้ารับบริการทางการแพทย์ในหนึ่งปี  ในจำนวนนี้ 65.3% หรือ 2.6 ล้านคนได้รับการซักประวัติการสูบบุหรี่ และ 55.8% ของคนที่มีประวัติสูบบุหรี่ หรือ 1.45  ล้านคนที่ได้รับการแนะนำให้เลิกสูบ ซึ่งเท่ากับ 35%  ของผู้ป่วยที่สูบบุหรี่หรือ 1 ใน 3 เท่านั้น ที่มารับการรักษา  ที่ได้รับการแนะนำให้เลิกสูบบุหรี่ ซึ่งมาตรฐาน HA ที่กำหนดให้ผู้ป่วยที่สูบบุหรี่ทุกคนได้รับการวินิจฉัยและรักษาการเลิกสูบบุหรี่ จะทำให้ผู้สูบบุหรี่เลิกสูบได้ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นแน่นอน

นพ.ชยนันท์  สิทธิบุศย์

ศ.พญ.สมศรี  เผ่าสวัสดิ์  ประธานคณะอนุกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพติดผลิตภัณฑ์  คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ  กล่าวว่า การรักษาเพื่อเลิกการติดนิโคตินเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่สุดที่จะลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ การกำหนดมาตรฐานให้มีการบันทึกการวินิจฉัยโรคและวางแผนการรักษาเพื่อเลิกบุหรี่ในผู้ป่วยที่สูบบุหรี่ทุกคนเป็นเรื่องที่มีประโยชน์มาก และนานาประเทศมีการดำเนินการมาก่อนแล้ว ตามข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก การกำหนดมาตรฐานนี้ จะทำให้ผู้ให้บริการผู้ป่วยทุกคน 

รวมถึงผู้ป่วยและครอบครัวตระหนักถึงความสำคัญของการให้การรักษาเพื่อเลิกสูบบุหรี่ ซึ่งปัจจุบันนี้ประเทศไทยยังมีผู้สูบบุหรี่ถึง 10 ล้านคน และจากรายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 ปี 2562 มีผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตกว่า 2 ล้านคนที่ยังสูบบุหรี่ ซึ่งจะเร่งการเกิดโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยทั้ง 2 โรคนี้  ทั้งนี้ จะมีการวางแผนร่วมกับสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล  สมาคมวิชาชีพสุขภาพ และสถาบันการศึกษา ฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ให้รู้ถึงมาตรฐาน HA ใหม่นี้  เพื่อจะได้มีการดำเนินการในหน่วยบริการทั่วประเทศโดยเร็ว

ศ.พญ.สมศรี  เผ่าสวัสดิ์

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org