อนุทิน ร่วมยินดีความสำเร็จ ผลิตวัคซีนในไทย ของสยามไบโอไซเอนซ์และแอสตร้าเซนเนก้า

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จในการผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในประเทศไทย จากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-รัฐบาลอังกฤษ โดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์จำกัด และ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ทำให้ส่งมอบวัคซีนได้ครบตามจำนวน 61 ล้านโดส และส่งออกไปยังประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกกว่า 100 ล้านโดส พร้อมก้าวสู่ความร่วมมือด้านวิชาการ และเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต

วันนี้ (14 มกราคม 2565) ที่ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด อำเภอบางใหญ่ นนทบุรี นายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นางอแมนดา มิลลิ่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศและการพัฒนาฝ่ายกิจการเอเชียแห่งราชอาณาจักรกล่าวแสดงความยินดีในการผลิตและส่งมอบวัคซีนจากความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักร โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ นายเจมส์ ทีกส์ ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทยจำกัด และ ดร.ทรงพล ดีจงกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ร่วมงาน

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ได้มาแสดงความยินดีในความสำเร็จของการร่วมมือระหว่างสยามไบโอไซเอนซ์และแอสตร้าเซนเนก้า ที่สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนที่มีคุณภาพระดับโลกในประเทศไทย และการผลิตเป็นไปตามแผนทุกประการ ทำให้สามารถส่งมอบวัคซีนให้กับประเทศไทยได้ครบตามจำนวน 61 ล้านโดส รวมถึงส่งออกไปยังประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกกว่า 100 ล้านโดส โดยกำลังการผลิตของ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ต่อปีอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านโดส

ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลอังกฤษ รวมถึงภาคเอกชน คือ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า และ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในความร่วมมือด้านวิชาการ เทคโนโลยี อุตสาหกรรมวัคซีนและยา เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของนักศึกษา นักวิจัยต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นงานในภาวะปกติหรือในภาวะฉุกเฉิน  นอกจากนี้ ในนามของรัฐบาลไทย ขอขอบคุณรัฐบาลอังกฤษที่บริจาควัคซีนให้กับประเทศไทยในช่วงที่วัคซีนมีจำกัด ทำให้มีวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประชาชนและสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้อย่างดี