วันนี้ (23 ธันวาคม 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ไทยเจอนักเดินทางชาวต่างประเทศ ที่ไม่ยอมกักตัวตามมาตรการ ว่า ก็ต้องดำเนินคดี เรื่องนี้ ได้สืบสวนแล้วพบว่า นักเดินทางคนนี้ไม่ยอมรอผลตรวจ แล้วเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ เท่ากับได้ละเมิดกฎหมายในประเทศไทยแล้ว โทษเป็นอย่างไร ว่าไปตามนั้น

ในกรณีแบบนี้ หากติดเชื้อโควิด ทางการจะรักษาให้ตามสิทธิ์ประกันสุขภาพที่เขาซื้อไว้ก่อนเดินทางเข้ามา เมื่อรักษาหาย ก็ต้องรับโทษที่ก่อไว้ แต่ถ้าไม่ติดเชื้อ ก็ต้องถูกลงโทษอยู่ดี เรื่องนี้

สาระคือ เขาได้ทำผิดกฎหมายประเทศไทย อีกเรื่องคือ ทางโรงแรม ก็ต้องรับผิดชอบว่าทำไม ปล่อยให้ออกมา ทั้งที่ยังไม่ได้รับผล เราต้องมาดูมาตรการว่ามันมีช่องโหว่ตรงไหนแล้วรีบอุด อย่ามองว่าเป็นเรื่องเล็ก เพราะนี่คือเคสเดียว แต่ถ้ามี 50 เคส รับรองว่าวุ่นวายมหาศาล

สำหรับการควบคุมโรคระบาด กระทรวงสาธารณสุข กำชับให้ทุกท่าน ยึดถือแนวทางชื่อว่า DUKE ซึ่ง

D คือ Determination = ความตั้งใจรักษาวินัยของตัวเอง

U คือ Universal Prevention คือ การป้องกันโรคในชีวิตประจำวัน

K = Knowledge คือ การรู้จักโรค การมีความรู้ในการรับมือกับโรค

E = Emerge หรือความพยายามแก้ปัญหา

แต่ต้องไม่จมกับปัญหา ต้องรู้ทางแก้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน บุคลากรการแพทย์ น่าจะเข้าใจหลักการเหล่านี้ดีทุกคน ประชาชน เมื่อช่วยกันแล้ว เราสามารถจัดการโรคระบาดได้ เรื่องโอมิครอน ชัดเจนว่าวัคซีนป้องกันความรุนแรงของโรค ไปจนถึงการเสียชีวิตได้ ขอให้ประชาชนมารับบริการ ขณะที่ผู้ประกอบการ ขอให้ตระหนักว่ารัฐผ่อนคลายแล้ว ก็ขอให้ท่านช่วยเราด้วย อย่าฝ่าฝืน เพราะเราไม่นิ่งนอนใจ และตัดสินใจเร็ว

อย่างกรณีที่ จ.สุรินทร์ เมื่อทราบปัญหา ท่านก็ต้องยุติกิจกรรม สำหรับประชาชน ที่มาร่วมงานต่างๆ ต้องปฏิบัติตามมาตรการ ซึ่งออกมาก็เพื่อรักษาชีวิตท่าน คนรอบข้าง ไปจนถึงเป็นการช่วยเหลือประเทศ

"คนไทยที่มีแผนจะเดินทางไปต่างประเทศ ขอย้ำว่า ถ้าระหว่างที่ท่านพำนักอยู่ประเทศนั้น แล้วประเทศดังกล่าวมีการระบาดมากๆ ทางการไทย ก็ต้องปรับมาตรการ การเดินทางกลับบ้านของท่าน อาจมีขั้นตอนต่างๆ เพิ่มเข้ามา ก็ต้องขอให้เข้าใจรัฐเช่นกัน จะเห็นว่าที่ผ่านมา เราปรับมาตรการคัดกรอง ตรวจเชื้อ กักตัวกันอยู่เรื่อย ให้ทันการระบาดของโรค"