สสจ.สระแก้ว เผยเบื้องต้นคนหิ้ว “วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน” เข้าไทยมาจากกัมพูชา เหตุเป็นประเทศมีวัคซีนดังกล่าว อย.ย้ำ! แม้ไทยขึ้นทะเบียนแล้ว แต่การนำเข้าต้องเป็นผู้นำเข้าถูกกฎหมาย ไม่เช่นนั้นมีความผิดจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ชี้ปัจจุบันวัคซีนจอห์นสันฯ ยังไม่มีการใช้ในวงกว้าง เป็นเพียงสถานทูตฝรั่งเศสเท่านั้น ที่สำคัญเป็นวัคซีนแพลตฟอร์มเดียวกับแอสตร้าฯ
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีปมหิ้ววัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันมาให้คลินิกเอกชนในจ.สระแก้ว ฉีด ว่า ทราบจากพื้นที่ว่า กรณีนี้เป็นการหิ้วมาจากกัมพูชา เนื่องจากมีวัคซีนจอห์นสันฯ แต่ก็ต้องบอกว่า ไม่แน่ใจว่าเป็นวัคซีนจริงหรือไม่ จึงเป็นที่มาว่า หลักการของการใช้วัคซีนป้องกันโควิดในประเทศไทย ต้องมีผู้นำเข้าชัดเจน และต้องผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เพราะหากไม่มีผู้นำเข้าก็จะเสี่ยงมาก เพราะวัคซีนจะไม่เหมือนชุดตรวจ ATK อย่างชุดตรวจ ATK ยังปลอมยาก แต่ตัววัคซีน เอาขวดมา ข้างในใส่อะไรมาก็ได้ ใส่น้ำเปล่าก็ไม่มีใครรู้ จึงปลอมได้ง่าย ดังนั้น ยากับวัคซีนจึงต้องมีการวางกติกา เพื่อป้องกันการปลอม
“ปัจจุบันในประเทศไทย โดยกรมควบคุมโรค จึงป้องกันด้วยการเก็บขวดวัคซีนทั้งหมด แต่บางประเทศไม่ได้เก็บขวด เขาทิ้งขวด ทำให้อาจมีการนำขวดมาใส่น้ำเปล่าก็ได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน เราจึงต้องมีผู้นำเข้าอย่างถูกต้อง” นพ.สุรโชค กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการนำเข้ามาผิดกฎหมายแบบเดินข้ามประเทศเข้ามา เพราะอะไรจึงตรวจสอบไม่ได้ นพ.สุรโชค กล่าวว่า บางคนหิ้วใส่กระเป๋ามา แบบขวดเดียว ไม่มากก็ทำให้ไม่ทราบได้ ที่สำคัญหากไม่ได้มาทางข้ามแดนหลัก ก็อาจเป็นปัญหาเช่นกัน สิ่งสำคัญคือ เราต้องตระหนักและถามตัวเราเองว่า ไปเอาวัคซีนแบบนี้มาฉีดทำไม จะเสี่ยงทำไม ในเมื่อมีวัคซีนที่รัฐบาลจัดให้ ไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีหน่วยงานการันตีความปลอดภัย มีขั้นตอนการเก็บดี ปลอดภัย ซึ่งวัคซีนโควิดต้องเก็บอย่างดี อย่าง 2-8 องศา การหิ้วเข้ามาธรรมดาก็เสียหมด
เมื่อถามว่า ต้องมีการประสานกับทางพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะแพทยสภาหรือไม่กรณีกำชับแพทย์ คลินิกเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด นพ.สุรโชค กล่าวว่า ต้องมี และได้หารือร่วมกับทั้งแพทยสภา และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.)ให้มีการแจ้งและกำชับเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าใครมาให้ฉีด เราก็ฉีด ยิ่งเป็นแพทย์ยิ่งไม่ใช่ คนไข้ไม่รู้ยังไม่เท่าแพทย์ เพราะแพทย์ต้องมีข้อมูล ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย
เมื่อถามว่ามีการสอบสวนคนนำเข้าแล้วใช่หรือไม่ ว่าเอามาจากกัมพูชา และมีความผิดอย่างไร นพ.สุรโชค กล่าวว่า พื้นที่แจ้งมาเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ผิดฐานนำเข้ายาไม่ได้รับอนุญาต ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ผิด พ.ร.บ.ยา มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย หรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาแผนปัจจุบัน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ทั้งนี้ต้องไปดูความผิดแต่ละกฎหมาย อย่างแพทยสภา เรื่องจริยธรรมแพทย์ ส่วนสบส. ก็ไปดูเรื่องคลินิกว่า มียาไม่ได้ขึ้นทะเบียนหรือไม่ถูกกฎหมายหรือไม่
เมื่อถามว่ากรณีนี้เป็นไปได้หรือไม่ที่คลินิกจะนำเข้ามาเอง นพ.สุรโชค กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบรายละเอียด ต้องไปดูผลการสอบสวน ซึ่งเป็นหน้าที่ของทางสสจ.สระแก้ว ดำเนินการ เนื่องจากกฎหมายต่างๆ ทั้ง อย. และสบส. มอบอำนาจให้พื้นที่จัดการ
“วัคซีนจอห์นสันฯ ณ ปัจจุบันมีเพียงล็อตเดียวเท่านั้น ที่อนุญาตให้ใช้ คือ กรมควบคุมโรคได้นำเข้ามากรณีการประสานกับทางสถานทูตฝรั่งเศส ซึ่งผ่านรัฐบาลฝรั่งเศส ส่วนการใช้ในวงกว้างภายในประเทศไทย ยังไม่มี แม้จะผ่านการอนุมัติแล้ว แต่ด้วยเรามีวัคซีนจำนวนมาก จึงไม่ได้มีการเจรจาเพิ่มเติม อีกทั้ง วัคซีนจอห์นสันฯ มีแพลตฟอร์มเหมือนกับแอสตร้าเซนเนก้า คือ ไวรัลแวกเตอร์ แต่คนเข้าใจว่า วัคซีนจอห์นสันฯ ฉีดเข็มเดียวน่าจะโอเค แต่ความเป็นจริงพอๆกับแอสตร้าฯ ฉีดเข็มเดียว ดังนั้น วัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็มย่อมมีประสิทธิภาพดีกว่า ซึ่งคนหิ้วเข้ามาก็อาจไม่เข้าใจ หรือไม่ทราบเรื่องนี้” รองเลขาธิการ อย. กล่าว
(ข่าวเกี่ยวข้อง : มุมมองแพทยสภาต่อกรณี “วัคซีนจอห์นสันฯ” พร้อมเผยการตรวจสอบแพทย์ผู้ฉีด...)
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 12 views