“อนุทิน” เผยเตรียมบูสเตอร์โดส กลุ่มประชาชนฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม 3 ล้านคน คาดปลาย ก.ย.หรือต้นเดือนต.ค.นี้แน่นอน เบื้องต้นใช้แอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็ม 3 กระตุ้น กรมควบคุมโรคอยู่ระหว่างจัดทำแผน พร้อมเร่งฉีดสูตรไขว้กลุ่มภัตตาคารไทยอีก 6 หมื่น และหารือฉีดแรงงานนอกระบบที่ทำงานร้านอาหารต่อไป ส่วนวัคซีนเด็กอายุ 12-18 ปี เตรียมไฟเซอร์ที่จะเข้ามาใน ต.ค.นี้  5 ล้านโดส

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2564 ที่สถานีกลางบางซื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มสมาคมภัตตาคารไทย มีนพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ และ นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ให้การต้อนรับ

นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้าร้านอาหารถือเป็นอีกกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อจากการประการประกอบอาชีพ กระทรวงสาธารณสุขได้รับการประสานจากสมาคมภัตตาคารไทยขอจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มนี้​ ซึ่งฉีดไปแล้ว​ 3​ หมื่นคน​ ยังเหลืออีก​ 6​ หมื่นคนจะทยอยฉีด​ให้ครบ​ เฉลี่ยวันละ​ 5​ พันคน​ใช้เวลาประมาณ​ 2​ สัปดาห์​ โดยเป็นการฉีดสูตรไขว้​ คือ ซิโนแวคเข็ม​ 1​และ แอสตร้าเซนเนก้า ​ เข็ม​ 2​ ใช้ระยะห่าง​ 3​ สัปดาห์​ ก็มีภูมิขึ้นสูงรับมือกับสายพันธุ์​เดลตาได้​ เพื่อสร้างมั่นใจและปลอดภัย ส่วนกรณีแรงงานต่างด้าวนอกระบบที่ทำงานในร้านอาหาร ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมหารือกับกระทรวงแรงงาน และฝ่ายความมั่นคง ร่วมกันสำรวจจำนวนที่ชัดเจนอีกครั้ง ย้ำทุกคนที่อยู่ในไทยจะได้รับวัคซีน

00 บูสเตอร์โดส ปชช. ก.ย.-ต.ค. ใช้แอสตร้าฯ วัคซีนหลัก

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า สำหรับประชาชนที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ซึ่งมีจำนวน​ 3​ ล้านคน​ จะได้รับการฉีดบูสเตอร์เข็มที่ 3 แน่นอน คาดว่าจะเริ่มฉีดได้ช่วงปลายเดือนก.ย.​หรือ​ต้นเดือนต.ค.นี้​ โดยฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นหลัก​ ขณะนี้กรมควบคุมโรคอยู่ระหว่างจัดทำแผนการฉีดว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด​ จะให้วอคอิน​ หรือ​ นัดผ่านระบบหมอพร้อม​ โดยอำนวยความสะดวกฉีดใกล้บ้านผ่านสถานพยาบาล​ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.​ )รพ.ชุมชน​

 

00 เตรียมไฟเซอร์ 5 ล้านโดสต.ค.นี้ให้เด็กอายุ 12-18 ปี

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 12-18 ปี ว่า​ ได้เตรียมการไว้แล้ว​ โดยกันวัคซีนไฟเซอร์ที่จะเข้ามาในเดือนต.ค. จำนวน 5 ล้านโดสรองรับกลุ่มเด็ก 12-18 ปี ขณะนี้​กรมควบคุมโรคและกรมการแพทย์​ อยู่ระหว่างจัดทำแผนว่าจะฉีดอย่างไร​ เบื้องต้นจะฉีดในสถานศึกษานั้นๆ​ เพื่อลดการเคลื่อนย้าย​ การเดินทาง​

ด้านนางฐนิวรรณ กล่าวว่า พร้อมปฏิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting ของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนต.ค. เพื่อให้ธุรกิจเกินหน้าต่อไปได้ และไม่ต้องปิดกิจการเหมือนเช่นที่ผ่านมา และมั่นใจไม่กระทบกับยอดขาย ส่วนผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมภัตตาคารไทย เช่น หาบเร่แผงลอยสามารถลงทะเบียน @thairestaurant เพื่อรับวัคซีนได้ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะฉีดวัคซีนให้กลุ่มแรงงานข้ามชาติที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมด้วย

 

**สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org