สปสช.จับมือคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ธพส. และมูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทย จัดบริการตรวจโควิดเชิงรุกด้วย ATK 31 ส.ค.-3 ก.ย. 2564 นี้ เน้นกลุ่มพนักงานภาคบริการที่กำลังจะกลับมาทำงานหลัง ศบค.ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ตรวจแล้วออกใบรับรองให้เลย ตั้งเป้าวันละ 1,500 ราย
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สปสช.เตรียมร่วมมือกับคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล, บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) และมูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทย จัดโครงการตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วย Antigen Test Kit (ATK) ในวันที่ 31 ส.ค.-3 ก.ย. 2564 นี้ โดยขอเชิญกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพในภาคบริการ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มร้านอาหาร พนักงานเสิรฟ์ พนักงานขาย ร้านนวด ร้านตัดผม/เสริมสวย และประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั้งคนไทยและแรงงานข้ามชาติ มารับการตรวจได้ที่ลานจอดรถชั้น 4 อาคารบี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น. เบื้องต้นตั้งเป้าว่าจะตรวจให้ได้ประมาณวันละ 1,500 ราย
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า การจัดโครงการดังกล่าว เป็นการดำเนินเพื่อสอดรับกับนโยบายของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ซึ่งเตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564 อาทิ การเปิดห้างสรรพสินค้า เปิดให้นั่งรับประทานอาหารในร้านได้ ร้านเสริมสวย สถานเสริมความงาม ให้เปิดบริการได้ รวมถึงเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศในอนาคต
ด้าน ศ.ดร.ฉัตรเฉลิม อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ทางคณะฯ มีความร่วมมือกับ สปสช. มาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีการระบาดอย่างหนักจนต้องใช้มาตรการล็อคดาวน์ในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ทางคณะฯก็ร่วมกับ สปสช. ในการจัดบริการตรวจคัดกรองเชิงรุกด้วย Antigen test kit เพื่อเร่งคัดแยกผู้ติดเชื้อเข้าสู่กระบวนการดูแลแบบ Home Isolation ให้เร็วที่สุด ซึ่งโครงการก็เป็นอีกครั้งที่ทางคณะฯจะร่วมมือกับ สปสช.ในการตรวจคัดกรองโควิด-19 โดยรอบนี้จะเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบการในภาคบริการและประชาชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อเตรียมพร้อมกลับเข้าสู่การทำงานเปิดเมืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกครั้ง รวมทั้งเป็นการสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนผู้รับบริการว่าพนักงานขององค์กรเหล่านี้ได้รับการตรวจคัดกรองแล้ว
"การตรวจคัดกรองในโครงการนี้เป็นการให้บริการฟรี ผู้รับการตรวจไม่มีค่าใช้จ่าย และจะรู้ผลใน 30 นาที และรับใบรับรองผลการตรวจได้หลายช่องทาง ทั้งการแจ้งผลให้ทราบผ่านทางมือถือ การรอรับใบรับรองผลการตรวจที่หน้างาน หรือดาวน์โหลดจากระบบออนไลน์ก็ได้ แต่หากผลตรวจเป็นบวก ถ้าเป็นกลุ่มไม่มีอาการ ทาง สปสช.จะจับคู่กับคลินิกเพื่อรับการดูแลแบบ Home Isolation หรือกลุ่มที่มีอาการก็จะเข้า Hospitel ของโรงพยาบาลปิยะเวทพร้อมรับยาฟาวิพิราเวียร์ทันที" ศ.ดร.ฉัตรเฉลิม กล่าว
ทั้งนี้ ประชาชนที่ไปรับการตรวจคัดกรองและต้องการใบรับรองผลการตรวจ ขอให้เตรียมสำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาพาสปอร์ตสำหรับแรงงานข้ามชาติไปด้วยจำนวน 2 ใบ เผื่อไว้ในกรณีที่ระบบออนไลน์มีปัญหา
โดยสามารถลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้าได้ที่ https://forms.gle/8M7w23qHMu1xEkXX8
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 34 views