สธ.เผยข้อมูลชาวต่างชาติในประเทศไทยรับวัคซีนโควิดแล้ว 356,337 ราย เมียนมาสูงสุด เหตุเป็นกลุ่มแรงงานต้องได้รับวัคซีนคุมการระบาด พร้อมเผย 10 ประเทศชาวต่างชาติอาศัยในไทยรับวัคซีนสูงสุดข้อมูลสะสมถึง 14 ส.ค.64

นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงการฉีดวัคซีนชาวต่างชาติในประเทศไทย ว่า ข้อมูลระหว่างวันที่ 28 ก.พ.- 14 ส.ค.2564 มีชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย และฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 ไปแล้วจำนวน 356,337 ราย โดยเมียนมาฉีดมากสุด เนื่องจากเป็นแรงงานที่อยู่ในพื้นที่ระบาด จึงต้องให้วัคซีนเข้าไปควบคุมการระบาด รองลงมาเป็นชาวจีน ชาวกัมพูชา ชาวลาว ส่วนชาวต่างชาติอื่นๆที่จะมาขอวัคซีนต่างๆ ในส่วนวัคซีนที่บริจาคเข้ามา อย่างไฟเซอร์ก็จะมีส่วนตรงนี้ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ข้อกำหนดกลุ่มเป้าหมาย

(ข่าวเกี่ยวข้อง : ขออภัย! ตัวเลขฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 ประชาชนทั่วไปคลาดเคลื่อน ยังไม่มี! เน้นบุคลากรทางการแพทย์)

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวต่างชาติในไทยที่ฉีดไปแล้วจำนวน 356,337 ราย คิดเป็น 7.27% ของจำนวนประชากรต่างชาติทั้งหมดในไทย โดยเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง ประมาณ 1.5 เท่า อายุเฉลี่ย 38 ปี โดยแยกเป็นผู้สูงอายุ 20,028 ราย คิดเป็น 7.6% โดยคนฉีดครบไปแล้วจำนวน 2 เข็ม จำนวน 107,106 ราย หรือคิดเป็น 30.1% ซึ่งประเทศไทยเห็นความสำคัญในการควบคุมโรคของชาวต่างชาติ หากมีก็ยื่นความประสงค์มาได้ แต่ต้องเป็นไปตามข้อกำหนด ส่วนชาวไทยที่จะไปต่างประเทศก็แจ้งรวมในนี้เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย และได้รับการฉีดวัคซีนสูงสุดมาจาก 10 ประเทศ (ข้อมูล 28 ก.พ.- 14 ส.ค.2564) ดังนี้

1.เมียนมา ได้รับวัคซีนจำนวน 178,531 ราย คิดเป็น 50.1%

2. จีน ได้รับวัคซีนจำนวน 38,447 ราย คิดเป็น 10.8%

3.กัมพูชา ได้รับวัคซีนจำนวน 36,580 ราย คิดเป็น 10.3%

4. ลาว ได้รับวัคซีนจำนวน 22,023 ราย คิดเป็น 6.2%

5. ญี่ปุ่น ได้รับวัคซีนจำนวน 14,866 ราย คิดเป็น 4.2%

6. อินเดีย ได้รับวัคซีนจำนวน 8,893 ราย คิดเป็น 2.5%

7. ฟิลิปปินส์ ได้รับวัคซีนจำนวน 8,565 ราย คิดเป็น 2.4%

8. อังกฤษ ได้รับวัคซีนจำนวน 7,683 ราย คิดเป็น 2.2%

9.ฝรั่งเศส ได้รับวัคซีนจำนวน 5,936 ราย คิดเป็น 1.7%

10.สหรัฐอเมริกา ได้รับวัคซีน 4,649 ราย คิดเป็น 1.3%