สโมสรนิสิตเภสัชฯ จุฬาฯ ร้อง สธ.ทบทวนเกณฑ์การรับวัคซีนไฟเซอร์บุคลากรทางการแพทย์

สโมสรนิสิตเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข ทบทวนเกณฑ์การรับวัคซีน ไฟเซอร์กระตุ้นภูมิคุ้มกันบุคลากรทางการแพทย์ ขอให้บุคลากรได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง และการจัดสรรต้องเป็นธรรม เปิดเผย และโปร่งใส ยึดประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. สโมสรนิสิตเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กถึง

แถลงการณ์สโมสรนิสิตเภสัชศาสตร์ จุฬาฯเรื่อง ขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนเกณฑ์การรับวัคซีน mRNA จากบริษัท Pfizer-BioNTech ของบุคลากรทางการแพทย์ 

โดยระบุว่า บุคลากรทางการแพทย์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบสาธารณสุขเป็นด่านหน้าที่สำคัญของประเทศในการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตลอดระยะเวลาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยบุคลากรทางการแพทย์ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อรักษาชีวิตของประชาชนและลดความสูญเสียของประเทศชาติให้ได้มากที่สุด

ด้วยเหตุนี้ บุคลากรทางการแพทย์จึงเป็นกลุ่มที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ตลอดเวลาที่มากกว่าประชาชนกลุ่มอื่น ๆ โดยทั่วไป การได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถป้องกันการติดเชื้อกลายพันธุ์ได้ จึงเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง

หากประเทศต้องประสบกับปัญหาการขาดแคลนของกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าแล้ว การรักษาชีวิตของประชาชนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอนาคตจะยิ่งดำเนินการได้ยากขึ้น สามารถส่งผลให้การสูญเสียชีวิตของประชาชนอันมีค่าจนไม่อาจสามารถประเมินได้มากไปกว่านี้

ดังนั้น การดูแลบุคลากรทางการแพทย์ในวิกฤตครั้งนี้ จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการรักษาชีวิตของประชาชน ไม่ให้เกิดความสูญเสียที่ทวีคูณมากกว่านี้ได้

สโมสรนิสิตเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข ทบทวนเกณฑ์การรับวัคซีน mRNA จากบริษัท Pfizer-BioNTech ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของบุคลากรทางการแพทย์ ให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถได้รับวัคซีนดังกล่าวอย่างทั่วถึง

โดยอยู่บนหลักการที่พิจารณาถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่มีมาตรฐานโดยมีหลักฐานการศึกษาทางวิทยาศาสตร์รองรับอย่างชัดเจน

สุดท้ายนี้ สโมสรนิสิตเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการกระจายวัคซีน mRNA ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะถูกจัดสรรอย่างเป็นธรรม เปิดเผย และโปร่งใส โดยพิจารณาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ 

ทั้งนี้การ #นำmRNAVaccineเข้ามาเป็นวัคซีนหลัก ถือเป็นแนวทางที่สำคัญที่จะทำให้ประชาชนทุกคนได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพอย่างเท่าเทียมโดยไม่ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำจนกลายเป็นสิทธิพิเศษสำหรับผู้มีกำลังทรัพย์ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

สโมสรนิสิตเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ลงแถลง ณ วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564