คลัสเตอร์จากโรงงาน “ไก่แปรรูปติดโควิด” ยังกินได้! กรมอนามัย แนะ ต้องปรุงสุก – ล้างมือก่อนปรุง

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงประชาชนบางกลุ่มไม่กล้ากินเนื้อไก่ช่วงนี้ เหตุหวั่นคลัสเตอร์ โรงงานแปรรูปไก่ จังหวัดสระบุรี ปนเปื้อนโควิด แนะล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและหลังปรุงอาหาร เพิ่มความมั่นใจก่อนกินต้องปรุงสุกทุกครั้ง

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ให้ข้อมูลจากกรณีเกิดการระบาดของโควิด-19 ภายในโรงงานแปรรูปเนื้อไก่สระบุรีข้อมูล (วันที่ 30 พฤษภาคม 2564) ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรีได้ดำเนินการตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกพนักงานโรงงานแปรรูปเนื้อไก่สระบุรี รวมทั้งสิ้นจำนวน 5,862 คน ทำการตรวจไปแล้ว 3,400 คน และทราบผลการตรวจแล้ว จำนวน 2,299 คน พบผู้ติดเชื้อจำนวน 391 คน ได้สร้างความวิตกกังวลต่อการบริโภคเนื้อไก่ช่วงเวลานี้ในประชาชนบางกลุ่ม ซึ่งที่ผ่านมาข้อมูลขององค์การอนามัยโลกยังไม่พบหลักฐานที่แสดงว่ากระบวนการปรุงประกอบทําให้มีการแพร่เชื้อโควิด-19

ส่วนข้อมูลขององค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ความเสี่ยงจากการติดเชื้อผ่านทางอาหารและภาชนะบรรจุอาหารนั้นมีความเป็นได้ค่อนข้างต่ำ แม้ว่าจะมีรายงานพบผู้ป่วยจากโรงงานหรือสถานประกอบการผลิตอาหารก็ตาม แต่ยังไม่มีหลักฐานที่แสดงชัดเจนว่าเชื้อไวรัสเข้าถึงผู้บริโภคโดยผ่านทางอาหาร หรือบรรจุภัณฑ์จากโรงงานที่มีคนงานติดเชื้อได้

“เพื่อเพิ่มความปลอดภัยประชาชนควรเลือกซื้อไก่จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ก่อนนำไก่ดิบมาปรุงประกอบอาหารต้องล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำทุกครั้งก่อนปรุง และควรล้างภายนอกบรรจุภัณฑ์ก่อนนำมาเก็บหรือเตรียมปรุง เพื่อเป็นการกำจัดคราบไขมัน สิ่งสกปรกที่ติดมาออกไปด้วย ถ้ามีมากควรล้างด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำสะอาด ค่อยนำมาชำแหละเอาส่วนต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการออก ควรปรุงสุกโดยใช้ความร้อนสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส ในเวลาไม่น้อยกว่า 5 นาที เพื่อเป็นการทำลายเชื้อโรคต่าง ๆ รวมถึงเชื้อโควิด-19 ด้วย แต่หากซื้อเนื้อไก่แช่แข็งผ่านทางออนไลน์ ต้องสังเกตบรรจุภัณฑ์ที่ห่อหุ้มด้วยพลาสติกแช่เย็น ป้ายที่บอกวันเดือนปีที่ผลิตและวันเดือนปีที่ควรบริโภค สำหรับการเก็บเนื้อไก่ดิบนั้น หากซื้อมาประกอบอาหารแล้วแต่ใช้ไม่หมด ควรเก็บในอุณหภูมิ 0-5 องศาเซลเซียส ซึ่งจะเก็บได้นาน 3-5 วัน หรือเก็บในช่องแช่เย็นที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส จะเก็บได้นาน 12 เดือน ส่วนอาหารที่ปรุงสุกแล้วเก็บไว้นานกว่า 2 - 4 ชั่วโมง ควรนำมาอุ่นร้อนก่อนกินทุกครั้งในมื้อต่อไป และควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำทุกครั้งก่อนกินอาหารและหยิบจับ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ปาก จมูกและตา เพื่อสุขอนามัยที่ดี” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว