สธ.เผยคลัสเตอร์โควิดสถานบันเทิง 22 มี.ค. - 8 เม.ย. 64 พบติดเชื้อสะสม 604 ราย หญิงมากกว่าชาย  ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ กระจาย 32 จ. กทม.สูงสุด 310 ราย เฉพาะทองหล่อ  248 ราย 

 

วันที่ 9  เมษายน 2564  ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 559 ราย แบ่งเป็นกลุ่มคลัสเตอร์สถานบันเทิง 214 ราย, ผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อสถานบันเทิง 31 ราย, ไม่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง 124 ราย, อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 32 ราย, คัดกรองเชิงรุกในชุมชน 148 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 10 ราย  โดยมีผู้รักษาหายเพิ่ม 27 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นผู้ต้องขังชายไทยอายุ 60 ปี ในจ.นราธิวาส มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า ส่วนภาพรวมฉีดวัคซีนโควิด 19 ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 8 เมษายน 2564 รวม 466,374 โดสใน 77 จังหวัด เป็นเข็มแรก 405,911 ราย และรับครบสองเข็ม 60,463 ราย 

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า กรณีการติดเชื้อในสถานบันเทิงข้อมูลตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม - 8 เมษายน 2564 พบผู้ติดเชื้อสะสม 604 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนไทย เพศหญิงมากกว่าชาย ผู้ติดเชื้อร้อยละ 64 ไม่มีอาการ ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานอายุ 20-29 ปี โดยพบผู้ติดเชื้อกระจายใน 32 จังหวัด กรุงเทพมหานครพบผู้ติดเชื้อสูงสุด 310 ราย เฉพาะร้านเหล้า/สถานบันเทิงย่านทองหล่อ พบ 248 ราย ส่วนจำนวนสถานบันเทิงที่พบผู้ติดเชื้อมีจำนวน 80 ร้านใน 11 จังหวัด อยู่ในกรุงเทพมหานครมากที่สุด 52 ร้าน

“ความเสี่ยงของสถานบันเทิงในกทม.และต่างจังหวัดมีความแตกต่างกัน แต่ความเสี่ยงไม่แตกต่างกัน แม้ว่าต่างจังหวัดสถานที่ไม่ได้คับแคบ อากาศถ่ายเทสะดวก แต่มีความเสี่ยงจากการที่มีคนไปรวมกันจำนวนมาก ไม่สวมหน้ากากป้องกัน และอยู่รวมกันเป็นเวลานาน จึงต้องระมัดระวังและหลีกเลี่ยง” นายแพทย์เฉวตสรรกล่าว

นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขไม่มีข้อห้ามเดินทางหรือการกักตัว ขึ้นกับมาตรการของจังหวัดปลายทาง แต่ผู้ที่มีความเสี่ยงโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง อาจรับเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ และอาจแพร่เชื้อต่อได้ จึงควรแยกตัว ใส่หน้ากากอย่างเข้มงวด ป้องกันการแพร่เชื้อ 

ส่วนประชาชนทั่วไปหากไม่มีแผนเดินทางหรือเลื่อนการเดินทางได้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเดินทางของคนจำนวนมาก หากจำเป็นต้องเดินทาง การ์ดต้องไม่ตก ป้องกันตัวเองด้วยการใส่หน้ากากตลอดเวลา และหากไปพบปะกับผู้สูงอายุ ต้องเข้มมาตรการป้องกันตนเองไม่ควรใช้เวลามากเกินไป 

 

สำหรับหน่วยงานที่พบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ขอให้ประสานหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ทันที เพื่อประเมินผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงควรตรวจหาเชื้อโดยเร็ว หากตรวจไม่พบเชื้อโอกาสแพร่เชื้อสู่ผู้ที่สัมผัสก่อนหน้านี้ไม่มี แต่ต้องกักตัวให้ครบ 14 วัน และตรวจซ้ำอีกครั้ง กลุ่มเสี่ยงต่ำให้สังเกตอาการตนเองจนครบระยะฟักตัว 14 วัน หากสงสัยว่าป่วย เช่นมีไข้ เจ็บคอ ให้ไปรับการตรวจ ส่วนสถานที่ที่พบผู้ติดเชื้อไม่จำเป็นต้องปิดทั้งอาคาร ปิดเฉพาะแผนกหรือชั้นที่เกี่ยวข้อง 1-3 วัน เพื่อทำความสะอาด เน้นเช็ดถูพื้นผิวและจุดสัมผัสร่วม เก็บขยะติดเชื้อ และมีระบบคัดกรองผู้เข้าสถานที่ วัดอุณหภูมิ สแกนไทยชนะ