คณะอาจารย์-ผู้เชี่ยวชาญศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก รพ.จุฬาฯ ร่วมเรียบเรียงข้อมูลให้ความรู้ถึงวิธีการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อก่อโรคโควิด19 ในห้องเรียนและที่ประชุม
ลักษณะห้อง :ในกรณีที่ปิดแอร์เปิดหน้าต่างได้
-แนะนำให้ปิดแอร์เปิดหน้าต่าง และ ใช้พัดลมเพื่อช่วยระบายอากาศและความร้อน ถ้าเปิดหน้าต่างได้ทั้ง 2 ฝั่งแนะนำให้เปิดทั้ง 2 ฝั่ง ถ้ามีหน้าต่างด้านเดียว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายอากาศและระบายความร้อนแนะนำให้ตั้งพัดลมไว้ใกล้ชิดกับหน้าต่าง ดังรูป 1 (ไม่แนะนำให้ใช้พัดลมพัดให้ส่ายไปมาเพราะอาจทำให้เกิดการฟุ้งกระจายของเชื้อได้) แสดงลูกศรชี้พัดลม
-นักเรียนทุกคนรวมทั้งครูจะต้องสวมใส่หน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่เรียน ครูที่สอนเวลาพูดไม่ควรดึงหน้ากากลงมาอยู่ใต้คาง
-การนั่งเรียนควรนั่งห่างกัน อย่างน้อย 1-2 เมตร (พื้นที่อย่างน้อย 1 ตารางเมตรต่อ 1 คน) และแนะนำให้หันหน้าไปด้านเดียวกันทุกคน ตามรูปที่ 1 และกากะบาดที่ห้ามนั่ง
รูป 1 แสดงการวางตำแหน่งของพัดลมที่ถูกต้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของการเปิดหน้าต่าง1
A. จุดตั้งแอลกอลฮอล์เจลล้างมือใกล้บริเวณที่ครูยืนสอน
B. ประตูทางเข้าควรเปิดไว้เพื่อเพิ่มการระบายอากาศภายในห้องและหลีกเลี่ยงการสัมผัสลูกบิดประตู
C. ป้ายรณรงค์การลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
D. จุดตั้งแอลกอลฮอล์เจลล้างมือใกล้ประตูทางเข้า
E. ทุกที่นั่งควรห่างกันอย่างน้อย 6 ฟุต และควรหันหน้าไปในทิศทางเดียวกัน
F. ลูกศรชี้เส้นทางเดินบนพื้น เพื่อหลีกเลี่ยงให้นักเรียนต้องเดินสวนกันไปมาและเว้นระยะห่างระหว่างคน
G. ห้องเก็บอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำความสะอาดห้องเรียน
H. ช่องเก็บของใช้ส่วนตัวและควรมีป้ายชื่อติดเพื่อให้วางตำแหน่งเดิมเป็นประจำทุกวัน
I. หน้าต่างควรเปิดไว้เพื่อเพิ่มการระบายอากาศภายในห้อง
J. พื้นที่สำหรับโต๊ะคุณครู มีเส้นลูกศรสีเขียวแบ่งพื้นที่ และควรมีแผ่นพลาสติก/อะคริลิกกั้นวางบนโต๊ะ
ลักษณะห้อง : ในกรณีที่ไม่สามารถปิดแอร์ได้และห้องเป็นระบบปิดแต่มีหน้าต่าง
- นักเรียนทุกคนรวมทั้งครูจะต้องสวมใส่หน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่เรียน ครูที่สอนเวลาพูดไม่ควรดึงหน้ากากลงมาอยู่ใต้คาง
- ถ้าเป็นไปได้การนั่งเรียนควรนั่งห่างกัน อย่างน้อย 2 เมตร (พื้นที่อย่างน้อย 4 ตารางเมตรต่อ 1 คน)
- ระหว่างช่วงพัก ให้ปิดแอร์และเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ดีขึ้น
- แต่อย่างไรก็ตามการปิดแอร์เปิดหน้าต่างเป็นพัก ๆ ทุก 1-2 ชั่วโมงเพื่อการระบายอากาศในทางปฏิบัติอาจทำได้ยากจึงแนะนำให้ติดพัดลมดูดอากาศเพิ่มดังที่จะกล่าวถึงในกรณีถัดไป
ห้องเรียนที่เป็นระบบปิดที่ไม่สามารถเปิดหน้าต่างได้เลย
ให้พิจารณาติดพัดลมดูดอากาศในห้องเรียนทุกห้องโดยการติดตั้งสามารถแบ่งได้เป็น 3 แบบดังนี้ (ดังรูป)
แบบที่ 1 เพิ่มการระบายอากาศด้วยการติดพัดลมดูดอากาศออก และ พัดลมดูดอากาศเข้า (ที่เรียกว่า Push-pull ventilation system)2 ดังรูป 2 เพื่อเพิ่มการระบายอากาศภายในห้อง โดยพัดลมดูดอากาศขาเข้า แนะนำให้มีการติดแผงกรองอากาศชนิด pre-filter หรือ medium-filter โดยติดตั้งระบบให้สามารถ ดูดอากาศเข้า และ ดูดอากาศออกโดยอัตโนมัติทุก 1-2 ชั่วโมง/ครั้งละ 5-10 นาทีเป็นต้น โดยการติดตั้งพัดลมดูดอากาศเข้าและดูดอากาศออกไม่จำเป็นต้องอยู่ด้านตรงข้ามกัน
ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งวิธีนี้จะประมาณต้องรอปรึกษาทีมวิศวะ???
แบบที่ 2 ในกรณีที่เร่งด่วน ไม่สามารถจัดหาแผงกรองอากาศติดกับพัดลมที่ดูดอากาศเข้า ก็สามารถใช้พัดลมดูดอากาศได้ตามปกติ (รูปที่) แต่การไม่มีแผงกรองอากาศขาเข้าอาจมีผลกระทบจากฝุ่นที่อาจเข้ามาในห้องได้บ้าง ส่วนระบบเปิดปิดโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่สามารถจัดหาได้ ให้ใช้วิธีเปิดปิดเองตามปกติอย่างน้อยทุก 1-2 ชั่วโมง แต่ก็อาจจะไม่สะดวกและอาจเกิดการผิดพลาดในเวลาการเปิดและปิดได้
ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งวิธีนี้จะประมาณ???
แบบที่ 3 ติดพัดลมดูดอากาศออกเพียงอย่างเดียว เพื่อเพิ่มการระบายอากาศ (รูปที่ ) แต่วิธีนี้การระบายอากาศอาจจะไม่ดีเท่า 2 วิธีแรก แต่ก็ดีกว่าการไม่ติดพัดลมดูดอากาศออกเพิ่ม
ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งวิธีนี้จะประมาณ??
*หมายเหตุ: โดยปกติห้องเรียนหรือห้องอาหารที่ติดแอร์ปิดประตูปิดหน้าต่าง จะถูกออกแบบให้มีการระบายอากาศเพียงประมาณ 2-4 air change per hour (ACH) ซึ่งการติดพัดลมดูดอากาศเพิ่มจะเป็นการเพิ่มการระบายอากาศ อาจเพิ่มเป็น 6 หรือ 8 ACH ขึ้นอยู่กับ ขนาดของพัดลม จำนวนของพัดลม และปริมาตรห้อง ซึ่งสามารถคำนวณได้ ดังตัวอย่างตามแสดงในส่วนล่าง การติดตั้งพัดลมดูดอากาศที่ใหญ่เกินไปแม้จะเป็นการเพิ่มการหมุนเวียนอากาศให้ได้เพิ่มมากขึ้นเชื้อที่ล่องลอยอยู่ในอากาศอาจถูกกำจัดได้ไวขึ้น ตามตารางที 1 แต่ถ้ามากเกินไปก็อาจมีผลกระทบทำให้ห้องร้อนขึ้นและเสียงพัดลมจะดังขึ้นดังนั้น การกำหนดให้เปิดปิดเป็นเวลา (เทียบเคียงคล้ายกับการเปิดหน้าต่าง) ไม่ต้องเปิดตลอดก็อาจจะเป็นการช่วยลดปัญหาดังกล่าวลงได้ ตามคำแนะนำโดยทั่วไปห้องที่มีผู้ป่วยติดเชื้อที่แพร่ทางเดินหายใจกำหนดให้ห้องมีการหมุนเวียนอากาศมากกว่า 12 ACH เพื่อให้เชื้อหมดออกจากในห้อง 99% ใช้เวลาเพียง 23 นาที ส่วนห้องเรียนและสถานประกอบการณ์ไม่ได้ถือว่าเป็นพื้นที่จุดเสี่ยงสูงมากเหมือนห้องติดเชื้อที่จะจำเป็นต้องสูงถึง 12 ACH
ห้องรับประทานอาหาร ต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
- ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้นักเรียนนั่งรับประทานอาหารภายในห้องเรียน เป็นที่นั่งเฉพาะส่วนบุคคลและควรมีแผ่นพลาสติก/อะคริลิค กั้นระหว่างคน ในกรณีที่ห้องเรียนจัดเป็นโต๊ะกลมให้นั่งเป็นกลุ่มๆ ดังรูป 3 เพื่อหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันในจำนวนคนหมู่มากมารวมตัวกันที่ห้องอาหาร เนื่องด้วยในขณะที่มีการรับประทานอาหารนักเรียนทุกคนจะต้องเปิดหน้ากากอนามัยและงดเว้นการพูดคุยกันคงเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติที่จะสามารถทำได้ 100%
- อาหารแนะนำให้จัดเป็นอาหารกล่องบรรจุแจกให้เฉพาะส่วนบุคคล ตั้งไว้บนโต๊ะที่นั่งเรียนเฉพาะบุคคล หลีกเลี่ยงการเดินตักอาหารที่เป็นลักษณะการต่อแถว
- ใส่หน้ากากตลอดในระหว่างที่รออาหารจะสามารถถอดหน้ากากได้เฉพาะตอนรับประทานอาหารและสวมใส่หน้ากากหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ
- ถ้าเป็นไปได้ควรงดเว้นการพูดคุยในระหว่างที่รับประทานอาหาร จะพูดคุยได้หลังจากที่สวมใส่หน้ากากแล้วเท่านั้น
- ถ้ามีการไอจาม ในระหว่างรับประมานอาหาร ต้องปิดปากทุกครั้ง
A.จุดตั้งแอลกอลฮอล์เจลล้างมือใกล้บริเวณที่ครูยืนสอน
B. ประตูทางเข้าควรเปิดไว้เพื่อเพิ่มการระบายอากาศภายในห้องและหลีกเลี่ยงการสัมผัสลูกบิดประตู
C. ป้ายรณรงค์การลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
D. จุดตั้งแอลกอลฮอล์เจลล้างมือใกล้ประตูทางเข้า
E. ถ้าไม่สามารถจัดให้นักเรียนหันหน้าไปด้านเดียวกัน จำเป็นต้องนั่งเป็นกลุ่ม จะต้องมีการจัดวาง ที่กั้นพลาสติก/อะคริลิก เพื่อป้องการ การไอและจามรดกัน
F. ลูกศรชี้เส้นทางเดินบนพื้น เพื่อหลีกเลี่ยงให้นักเรียนต้องเดินสวนกันไปมาและเว้นระยะห่างระหว่างคน
G. ห้องเก็บอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำความสะอาดห้องเรียน
H. ช่องเก็บของใช้ส่วนตัวและควรมีป้ายชื่อติดเพื่อให้วางตำแหน่งเดิมเป็นประจำทุกวัน
I. หน้าต่างควรเปิดไว้เพื่อเพิ่มการระบายอากาศภายในห้อง
J. พื้นที่สำหรับโต๊ะคุณครู มีเส้นลูกศรสีเขียวแบ่งพื้นที่ และควรมีแผ่นพลาสติก/อะคริลิกกั้นวางบนโต๊ะ
ห้องรับประทานอาหารกลางวัน (ในกรณีที่ปิดแอร์เปิดหน้าต่างได้ หรือเป็น open air)
1.การนั่งรับประทานควรนั่งห่างกัน อย่างน้อย 1-2 เมตร (พื้นที่อย่างน้อย 1 ตารางเมตรต่อ 1 คน)
2.ควรมีแผ่นพลาสติกกั้นระหว่างคนในระหว่างที่รับประทานอาหารในกรณีที่ไม่สามารถนั่งห่างกันเกิน 1-2 เมตร
3.ถ้าไม่สามารถเว้นระยะห่างได้แนะนำให้มี กล่องพลาสติก หรือ อะคริลิก ตั้งไว้เฉพาะบุคคล กั้นไว้ระหว่างคน
ห้องรับประทานอาหารกลางวัน (ในกรณีที่ไม่สามารถปิดแอร์เปิดหน้าต่างได้และสามารถรับประทานในห้องเรียนได้)
1.การนั่งรับประทานควรนั่งห่างกัน อย่างน้อย 2 เมตร (พื้นที่อย่างน้อย 4 ตารางเมตรต่อ 1 คน)
2.ควรมีแผ่นพลาสติกกั้นระหว่างคนในระหว่างที่รับประทานอาหาร
3.แนะนำให้ติดตั้งพัดลมดูดอากาศดังที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น
การทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมให้บ่อยครั้งอย่างน้อย ทุก 2 ชั่วโมง เช่น ลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟต์ ราวบันได คีย์บอร์ด เป็นต้น (น้ำเปล่าผสมน้ำสบู่/ผงซักฟอก หรือ น้ำยาทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมที่ไม่ทำลายต่อพื้นผิว)4 ดังแสดงในตาราง 2
ห้องส้วม
-ทำความสะอาดห้องน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยน้ำยาที่ใช้ทั่วไปหรือที่เรียกว่า น้ำยาฟอกขาว หรืออาจใช้ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ดังในตาราง
-ควรตรวจสภาพพัดลมดูดอากาศให้สามารถเปิดใช้งานได้ตลอดในช่วงที่โรงเรียนเปิด
-ถ้าเป็นห้องส้วมที่ติดเครื่องปรับอากาศให้ปิดเครื่องปรับอากาศ ไม่แนะนำให้เปิดแอร์ ให้เปิดหน้าต่าง หรือ อาจพิจารณาติดพัดลมดูดอากาศเพิ่มตามความเหมาะสม
การใช้ รังสี Ultraviolet C (UVC)5 ในโรงเรียนมีประโยชน์หรือไม่ ?
Ultraviolet เป็นที่ทราบกันดีว่า UVC สามารถทำลายเชื้อโรคได้ในอากาศและบนพื้นผิวสัมผัสต่างๆ แต่อย่างไรก็ตาม การติดตั้ง UV หรือให้ UV ทำงานควรจะเปิดในกรณีที่ไม่มีคนอยู่ในห้องเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผิวหนังและดวงตา และ ระยะห่างรวมถึงระยะเวลาที่ UV สัมผัสกับเชื้อ (contact time) ก็เป็นสิ่งสำคัญ ประสิทธิภาพในการทำลายเชื้อจะลดลงทุกๆ 1 เมตรที่ห่างออกไป และจะต้องมีเวลาที่เชื้อจะต้องโดนรังสี UV เป็นระยะเวลานาน 5 นาทีถึงจะสามารถทำลายเชื้อได้ อีกทั้งยังต้องทำในบริเวณพื้นที่ที่เป็นระบบปิด ถ้าเป็นระบบเปิด พื้นที่โล่งการระบายอากาศดีอยู่แล้ว การนำ UV มาใช้จะไม่มีประโยชน์ในแง่การฆ่าเชื้อที่ล่องลอยในอากาศ ในพื้นที่ที่กว้างการทำลายเชื้อโดยการใช้วิธีเช็ดถูด้วยให้ครบทุกพื้นผิวสัมผัสร่วมให้บ่อยครั้งน่าจะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญกว่า ส่วนการฆ่าเชื้อโรคที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ เนื่องจากโรค COVID-19 การแพร่เชื้อที่สำคัญเป็นการแพร่แบบ droplet (จากการพูดคุย ไอ แล้วมีสารคัดหลั่งปนเปื้อนเชื้อในระยะ 1-2 เมตร) และ contact (ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งที่ปนเปื้อนเชื้อที่มือ ของใช้ สิ่งแวดล้อม) เป็นหลัก การแพร่แบบ airborne (การแพร่เชื้อที่กระจายในอากาศไกลเกินกว่า 2 เมตร) มีในเฉพาะบางโอกาสเท่านั้น เช่น การตะโกน จาม ร้องเพลงดังๆ แล้วบุคคลนั้นไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัยและอยู่ในสถานที่แออัดการระบายอากาศไม่ดี หรือ การทำหัตถการในโรงพยาบาลบางอย่างทางการแพทย์ เช่น การใส่ท่อช่วยหายใจ การกดหน้าอกเพื่อช่วยฟื้นคืนชีพ การใช้ UV ก็อาจสามารถทำลายเชื้อที่ล่องลอยอยู่ในอากาศได้ แต่อย่างไรก็ตามการใช้ UV จำเป็นต้องใช้ทำลายเชื้อในขณะที่ไม่มีคนอยู่และถ้าห้องขนาดใหญ่ การติดตั้ง UV ต้องใช้หลอดจำนวนมากในการติดตั้ง มีการคำนวณปริมาตรห้องและต้องติดตั้งอย่างถูกวิธี มีการวัดปริมาณรังสี UV ให้เหมาะสมไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป การติดตั้ง UV เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ถือว่าเป็นตัวช่วยเสริม ในการลดปริมาณเชื้อลงได้แต่ต้องเข้าใจและติดตั้งอย่างถูกวิธีตลอดจนการดูแลรักษาหลอด UV ไม่ให้มีฝุ่นเกาะเป็นประจำ และที่สำคัญควรเน้นปรับปรุงการระบายอากาศภายในห้อง การสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดของทุกๆคน เน้นการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และ ความถี่ในการเช็ดพื้นผิวสัมผัสร่วมกันให้บ่อยครั้งและทั่วถึงน่าจะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
การใช้เครื่องฟอกอากาศแบบเคลื่อนที่ชนิด High-efficiency particulate air (HEPA) filter (portable HEPA filter) ในโรงเรียน มีที่ใช้หรือไม่?
ตามคำแนะนำของ Centers of Disease Control and Prevention ประเทศ สหรัฐอเมริกา อาจพิจารณาให้นำมาใช้ได้ในโรงเรียน เฉพาะบริเวณพื้นที่ที่มีความเสียงสูงและไม่สามารถปรับปรุงการระบายอากาศได้ เช่น บริเวณห้องปฐมพยาบาล ห้องแยกโรคนักเรียนที่มีอาการ หรือ มีอาการทางเดินหายใจ1 เนื่องจากราคาสูงการนำมาใช้กับทุกห้องอาจจะไม่คุ้มค่า และ มีให้เลือกหลายขนาดขึ้นอยู่กับพื้นที่ห้อง ถ้าพื้นที่ห้องขนาดใหญ่เลือกเครื่องที่ไม่เหมาะสมกับขนาดห้อง ประโยชน์ของการนำมาใช้ประสิทธิภาพจะลดลง
ส่วนสถานประกอบการที่อื่นๆ เช่น ร้านอาหาร เป็นต้น สามารถนำมาตรการเรื่องการระบายอากาศมาปรับใช้ตามความเหมาะสมแล้วแต่พิจารณา แนะนำว่าควรมีมาตรการการระบายอากาศ พร้อมกับให้วิศวะกร หรือ สถาปนิกมาช่วยประเมินร่วมกัน และควรเน้นการสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดของทุกๆคน เน้นการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และ ความถี่ในการเช็ดพื้นผิวสัมผัสร่วมกันให้บ่อยครั้งและทั่วถึงน่าจะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
***********************
เอกสารอ้างอิง
- Centers of Disease Control and Prevention (CDC). HOW DO I SET UP MY CLASSROOM? A quick guide for teachers. [cite 2021 Jan 22]. Available from:
file:///E:/COVID%20and%20school/How_Do_I_Set_Up_My_Classroom.pdf
- Robert Hughes. An Overview of Push—Pull Ventilation Characteristics. Applied Occupational and Environmental Hygiene 1990.
- Morbidity and Mortality Weekly Report. Guidelines for Preventing the Transmission of Mycobacterium tuberculosis in Health-Care Settings, 2005. [cite 2021 Jan 26]. Available from:
http://www.msdbangkok.go.th/KM/MMWR%20%20TB.pdf
- กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข คู่มือการปฏิบัติสำหรับสถานศึกษา ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 พศ. 2563. นนทบุรี: สำนักพิมพ์ คิว แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด; 2563
- Zero TB initiative. Guide to using germicidal UV. [cite 2021 Jan 23]. Available from:
เขียนและเรียบเรียงโดย นพ.กำพล สุวรรณพิมลกุล, พญ.ปัทมา ต.วรพานิช, พญ.วรรษมน จันทรเบญจกุล, พญ. เลลานี ไพฑูรย์พงษ์, นพ. โอภาส พุทธเจริญ และ นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฬา ศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sgompol@gmail.com โทรศัพท์: 02-256-4578
- 2739 views