รายละเอียดผู้ป่วยโควิดหญิงไทยลอบเข้าปท. 6 ราย หลังจากก่อนหน้านี้พบ 4 รายทำงานสถานบันเทิงท่าขี้เหล็กในประเทศเมียนมา ขณะที่ 6 รายเกี่ยวข้องสถานบันเทิงท่าขี้เหล็กเช่นกัน ล่าสุดควบคุมโรคได้ ยังไม่พบคนไทยติดเชื้อเพิ่มจากผู้ป่วยลักลอบกลุ่มนี้
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ว่า เมื่อวานได้มีการรายงานไปแล้วว่ามีผู้ติดเชื้อ 4 รายที่เชียงใหม่ 1 รายเชียงราย 3 รายอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์วันนี้การสอบสวนค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติมทำให้สามารถพบผู้ป่วยรายใหม่อีก 6 รายโดย 2 รายอยู่ที่เชียงใหม่ อีก 4 ราย กระจาย อยู่ที่จังหวัดพะเยาพิจิตร ราชบุรี และกรุงเทพฯ จังหวัดละ 1 ราย ทั้งหมดทำงานที่ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
(ข่าวเกี่ยวข้อง : รวมไทม์ไลน์ผู้ป่วยโควิดเชียงใหม่- เชียงราย 3 รายติดเชื้อจากเมียนมา
: โควิดเชียงรายพบเพิ่ม 1 ราย หญิงอายุ 25 ปีเกี่ยวเนื่อง 3 รายแรกทำงานเมียนมาลอบเข้าไทย)
รายแรกหญิงอายุ 28 ปี จ.พะเยา ประวัติอยู่เมียนมา 1-26 พ.ย. กลับมาประเทศไทยเมื่อวันที่ 27 พ.ย.โดยช่องทางธรรมชาติ จากนั้นวันที่ 28 มีเพื่อนขับรถจักรยานยนต์มาส่งที่ปากซอยโลตัส แม่สาย และเหมารถแท็กซี่สีแดงขาว จำทะเบียนไม่ได้มาส่งที่จังหวัดเชียงรายซึ่งมีการสวมหน้ากากอนามัยทั้งหมดระหว่างเดินทาง จากนั้นเวลา 15.00 น. มีการพักที่ห้องเช่าของเพื่อนชั้น 2 ของตึกแถวหลังห้างบิ๊กซี เชียงรายโดยอาศัยอยู่คนเดียว ซึ่งในช่วง21.00 น. ได้ออกไปซื้ออาหารรับประทานที่ร้านค้าในตัวเมืองกลับมารับประทานที่ห้องตลอดเวลาก็ได้มีการสวมหน้ากากเช่นเดียวกัน ส่วนวันที่ 29 พ.ย.ไม่ได้ออกไปไหนตลอดเช้าถึงบ่าย แต่ช่วงเย็นแฟนขับรถยนต์ส่วนตัวมารับจากจังหวัดพะเยามารับไปเที่ยวงานสิงห์ปาร์ค เวลา 20.00 น.จอดรถโซน C26 และนั่งรถสองแถวเข้างาน นั่งโต๊ะบริเวณลานเบียร์ มีการซื้อหาหารและเบียร์ บริเวณนั้น ไม่ได้ไปหน้าเวทีสวมหน้ากากตลอดยกเว้นช่วงเวลาที่ดื่ม 23.00 น. กลับมาที่ห้องพักของเพื่อน จากนั้นเวลา 04.00 น. ออกไปพักโรงแรม HOPINN ในตัวเมือง
ต่อมา 30 พ.ย. เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมเวลา 12.00 น. ได้แวะรับประทานก๋วยเตี๋ยวระหว่างทาง และแวะร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ปตท. แม่สลวย จากนั้นเดินทางไปเชียงใหม่ ไปขอรับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่เวลา 17.00 น. ก่อนจะเดินทางกลับด้วยรถยนต์ส่วนตัวร่วมกับแฟน แวะปั๊ม ปตท.แม่ขะจาน เพื่อเข้าห้องน้ำ ทั้งนี้เมื่อทราบผลการตรวจในคืนวันนั้นได้เข้ารับการรักษาในห้องแยกโรคที่โรงพยาบาลจังหวัดพะเยา ต่อมาเช้าวันที่ 1 ธ.ค. รับแจ้งจากรพ.เอกชนจังหวัดเชียงใหม่ว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งตรงกับผลตรวจของรพ.พะเยา และทีมสอบสวนโรคของสำนักงานสาธารณสุขพะเยาได้ค้นหาผู้สัมผัสซึ่งจะมีเพิ่มเติมต่อไป คนเสี่ยงสูงคือเพื่อนร่วมโต๊ะ และเด็กเสิร์ฟ
รายที่ 2 เป็นผู้หญิงอายุ 21 ปีอยู่ในกรุงเทพฯ โดยประวัติพบว่า วันที่ 17-27 พ.ย.ไปเที่ยวโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พร้อมเพื่อนสนิท ที่จังหวัดพิจิตร แล้วเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ทางช่องทางธรรมชาติ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เวลา 05.00 น. ต่อมาเวลา 06.00 น. นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างมาส่งที่โรงแรมที่พักที่อำเภอแม่สาย ต่อมามีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก และเรียกรถแกร็บเดินทางไปสนามบินเชียงรายเพื่อขึ้นเครื่องบินมาที่กรุงเทพฯด้วยเที่ยวบิน DD 8717 ลงที่สนามบินดอนเมือง จากนั้นเวลา 17.00 น. นั่งแท็กซี่ กลับที่พัก ต่อมา วันที่ 29 พ.ย. เวลา 16.30 น. เข้ารับการตรวจที่คลินิกแพทย์และได้รับคำแนะนำให้ไปรพ. ดังนั้น เวลา 17.00 น. นั่งรถยนต์ส่วนตัวกลับมากับแฟนเพื่อตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนผลการตรวจพบเชื้อโควิด-19 ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงคือแฟน และแท็กซี่
ส่วนรายที่ 3 เป็นหญิงอายุ 25 ปี อยู่จังหวัดพิจิตร โดยประวัติพบว่า วันที่ 17-27 พ.ย.ไปเที่ยวโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พร้อมเพื่อนสนิท ที่กทม. (รายที่ 2) แล้วเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ทางช่องทางธรรมชาติ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เวลา 05.00 น. ต่อมาเวลา 06.00 น. นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างมาส่งที่โรงแรมที่พักที่อำเภอแม่สาย ต่อมามีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก และเรียกรถแกร็บเดินทางไปสนามบินเชียงรายเพื่อขึ้นเครื่องบินมาที่กรุงเทพฯด้วยเที่ยวบิน DD 8717 ลงที่สนามบินดอนเมือง จากนั้นเวลา 17.00 น. ต่อเครื่องจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินพิษณุโลก มีเพื่อนมารับกลับไปยังจังหวัดพิจิตร โดยพักกับเพื่อนที่มารับ มีการรับประทานอาหารที่ร้านเบิร์ด บาร์ จ.พิจิตร ร่วมกับเพื่อนในกลุ่มรวม 4 คน ไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย ต่อมาวันที่ 29 พ.ย. ช่วงเช้ารับประทานก๊วยเตี๋ยว หน้าปากซอยหอพัก ตกเย็นไปที่ร้านบิร์ด บาร์ ต่อด้วยร้าน crocodile Rock pub จ.พิจิตร , วันที่ 30 พ.ย. ไปทำเล็บ ช่วงกลางวันสั่งแกร็บมารับประทาน ช่วงเย็นไปร้านบิร์ด บาร์ ต่อด้วยร้าน crocodile Rock pub , วันที่ 1 ธ.ค. สสจ.พิจิตร เก็บตัวอย่างส่งตรวจพร้อมนำตัวกักดูอาการ ผลตรวจออกมาว่าพบเชื้อโควิด-19
รายที่ 4 เป็นหญิงอายุ 36 ปีอยู่จังหวัดราชบุรี มีประวัติไปทำงานที่สถานบันเทิงที่ประเทศเมียนมาช่วงวันที่ 3-28 พ.ย. สังเกตเห็นว่ามีเพื่อนเริ่มมีอาการป่วย ส่วนเจ้าตัวมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ ซื้อยารับประทานเอง เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ต่อมาวันที่ 29 พ.ย. เดินทางกลับไทยโดยมีคนเมียนมาเป็นผู้นำทาง มีการเดินทางจากชายแดนไปที่สนามบินเชียงใหม่ ด้วยรถยนต์ของเพื่อน พร้อมแฟนของเพื่อน ทั้งคู่ไม่สวมหน้ากาก จากนั้นนั่งเครื่องบินจากจังหวัดเชียงใหม่เข้ากรุงเทพฯโดยสายการบิน Thai Lion Air เที่ยวบิน 10.40 น. ถึงสนามบินดอนเมืองเวลา 12.00 น. แล้วนั่งแท็กซี่จากดอนเมืองไปที่สถานีขนส่งหมอชิตเดินทางต่อด้วยรถตู้ไปลงที่บิ๊กซี จ.ราชบุรี แล้วต่อรถจักรยานยนต์รับจ้างหน้าบิ๊กซีราชบุรี ไปตรวจรักษาที่รพ.เอกชนเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. จากนั้นเพื่อนที่ไปร่วมงานเลี้ยงด้วยกันส่งผลการตรวจพบเชื้อโควิด-19 มาให้ผู้ป่วยรายนี้จึงถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลราชบุรี และมีผลการตรวจยืนยันว่าติดเชื้อเช่นเดียวกัน ทีมสอบสวนโรคเบื้องต้นมีการใช้เวลาประมาณ 1 วันที่อยู่ในชุมชนดังนั้นมีโอกาสที่จะพบผู้สัมผัสในชุมชนอีก
รายที่ 5 และ 6 ที่เชียงใหม่ เป็นเพศหญิงอายุ 23 ปี และ 25 ปี ทั้ง 2 รายนี้ไม่มีอาการ กลับเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ผ่านพรมแดนธรรมชาติ โดยเข้ามาพร้อมกัน 3 คน เวลา 15.00-17.00 น. โดยเดินเท้า ต่อรถจักยานยนต์รับจ้าง 3 คัน วันที่ 27 พ.ย. ค้างที่บ้านเพื่อนที่อำเภอแม่สาย จากนั้น 28 พ.ย. เวลา 12.00-16.00 น. เหมารถจากอำเภอแม่สายเดินทางพร้อมกัน 3 คนกลับมาที่ที่พัก และหอพักย่านสันติธรรม ระหว่างเดินทางไม่ได้แวะที่ไหน โดยทั้ง 3 คนให้ข้อมูลว่าวันที่ 29 พ.ย. อยู่ที่พักตลอด แต่ทีมสอบสวนโรคอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลกล้องวงจรปิด จากนั้นวันที่ 30 พ.ย. ผู้ติดเชื้อจากจังหวัดพะเยา (รายที่ 1) มาหาที่บ้านพัก และหอพักย่านสันติธรรม ในช่วงค่ำ หลังจากไปตรวจหาเชื้อฯ ที่ รพ.เอกชน ต่อมาวันที่ 1 ธ.ค. เวลา 12.00 น. ไปฟังผลแทนเพื่อนที่รพ.เอกชน ทั้งนี้ทีมสอบสวนโรคสัมภาษณ์ประวัติเพิ่มเติมพบว่า มีประวัติเสี่ยงเดินทางมาจากพื้นที่ระบาดเช่นกัน จึงติดตามเพื่อนอีก 2 รายมาตรวจทั้งหมด กระทั่งเวลา 18.00 น. ผลตรวจพบติดเชื้อ และเข้ารับการรักษาที่รพ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ ส่วนเพื่อนอีก 1 คนที่มาด้วยกันนั้นผลตรวจเป็นลบ จึงกักตัวที่สถานที่แยกกัก
(อ่านเพิ่มเติม : ผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 6 รายลอบเข้าไทยจากเมียนมา สธ.ย้ำแต่ละพื้นที่ยังไม่ต้องล็อกดาวน์)
- 22 views