“สาธิต ปิตุเตชะ” รมช.สาธิต เผยทหารอียิปต์ไม่ให้ความร่วมมือตรวจหาเชื้อโควิด แถมออกนอกโรงแรมกักกันโรค จนต้องประสานสถานทูต เตรียมนำรถตรวจเชื้อโควิดลงพื้นที่ห้างระยอง ตรวจกลุ่มเสี่ยงสัมผัส ขณะที่ศบค.จ่อแถลงรายละเอียดทั้งหมด 11.30 น.พรุ่งนี้(14 ก.ค.)

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันกว้างขวาง กรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด19 รายที่เป็นชายสัญชาติอียิปต์ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นทหารได้เดินทางเข้ามาไทย พร้อมเพื่อนๆกว่า 30 คน และพักในโรงแรมที่เป็นหนึ่งในสถานที่กักกันตามมาตรการควบคุมโรค แต่ปรากฏว่ามีการออกนอกพื้นที่ โดยเฉพาะการไปยังห้างสรรพสินค้าในจ.ระยอง จนภายหลังพบ 1 รายติดเชื้อโควิด-19 เกิดคำถามว่าระบบในการควบคุมป้องกันโรคหละหลวมหรือไม่อย่างไรนั้น

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมช.สธ.) กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นได้รับการรายงานข้อมูลเบื้องต้น ว่า ทหารกลุ่มนี้ไม่เชื่อฟังเท่าไหร่ โดยเดินทางออกนอกโรงแรม ซึ่งเราไปตรวจเชื้อ แต่ตอนแรกเขาไม่ยอม เราจึงต้องประสานไปยังสถานทูตเพื่อให้ได้รับความร่วมมือ และการที่ออกนอกพื้นที่ ซึ่งเป็นปัญหามาก อย่างไรก็ตาม เรากำลังดำเนินการสอบสวนโรค

“โดยในวันพรุ่งนี้ ทีมกรมควบคุมโรค และผมจะเดินทางไปยังจ.ระยอง เพื่อนำรถพระราชทาน ทำการสุ่มตรวจเชื้อโควิดในกลุ่มเสี่ยง กลุ่มสัมผัสทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า เป็นห้างแหลมทอง หรือห้างเซนทรัลก็ดี กลุ่มคนที่พบว่าตัวเองมีความเสี่ยงก็มาตรวจเชื้อที่รถพระราชทาน ที่ทางกรมควบคุมโรคจะลงไปได้ โดยเราจะขีดวงเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยเราขอยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด ไม่ให้เกิดการเล็ดลอดแพร่ระบาดเชื้อในวงกว้างได้” ดร.สาธิต กล่าว

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรค  ได้มอบหมายให้กองระบาดวิทยา สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งดำเนินการสอบสวนโรคและรายละเอียดเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าว  จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าเที่ยวบินทางทหารดังกล่าว มีกัปตันและลูกเรือ รวม 31 คน เป็นทหารจากประเทศอียิปต์  ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะ ตามมาตรการของคำสั่ง ศบค. เรื่องแนวปฏิบัติตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 6 ในข้อ (5) ซึ่งอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทยได้ แต่จะต้องอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด และไม่ออกไปนอกพื้นที่สาธารณะจนกว่าจะเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งกลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะกลุ่มนี้  เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 63  เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดระยอง และกลับออกไปในวันที่ 11 ก.ค. 63 


ทั้งนี้ เมื่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ได้รับแจ้ง จึงเข้าดำเนินการติดตามทีมลูกเรือที่เข้าพักในโรงแรม ในวันที่ 10 ก.ค. 63 เวลาประมาณ 11.00 น. และพบว่าทีมลูกเรือดังกล่าว ไม่ได้อยู่ในโรงแรมตามมาตรการที่กำหนดไว้ จึงมีการตรวจสอบ พบว่าลูกเรือได้เดินทางไปห้างสรรพสินค้า ใกล้โรงแรม จึงมีการออกติดตามให้กลับมา และทำการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจทางห้องปฏิบัติการหาเชื้อโรคโควิด 19 เนื่องจากมีการออกไปนอกโรงแรมจึงต้องมีการตรวจ ให้มั่นใจว่าจะไม่มีการติดเชื้อ และแพร่ไปในชุมชน ซึ่งต่อมาหลังจากลูกเรือเดินทางกลับ ผลการตรวจพบว่า พบเชื้อจำนวน 1 ราย ซึ่งทหารกลุ่มดังกล่าว ได้เดินทางกลับประเทศไปแล้วในช่วงเที่ยงของวันที่ 11 ก.ค. 63    ทางทีมงานจึงได้ลงสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อค้นหาผู้สัมผัส ทั้งที่สนามบิน โรงแรม รถที่ใช้เดินทาง รวมทั้งที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อทำการตรวจหาเชื้อต่อไป โดยเบื้องต้นได้ดำเนินการตรวจทางห้องปฏิบัติการในผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (พนักงานโรงแรมที่ให้บริการคณะลูกเรือจากต่างประเทศ) ทำความสะอาด และปิดให้บริการในชั้นที่รับลูกเรือเข้าพัก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับทหารคนดังกล่าวเป็นลูกเรือเครื่องบินทหาร ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในประเทศ ในลักษณะกลุ่มของผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาในประเทศตามภารกิจหรือมีกำหนดเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรที่ชัดเจน กลุ่มพวกนี้เข้ามาได้ จะมีที่พักให้เดิมเป็นโรงแรมแถวสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ทหารและลูกเรือชุดนี้ (รวม 31 คน) เดินทางออกจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ในวันที่ 6 ก.ค. ไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากนั้นวันที่ 7 ก.ค. เดินทางต่อไปที่ ประเทศปากีสถาน 8 ก.ค. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.ระยอง 9 ก.ค. ออกจากโรงแรม บินไปทำภารกิจทางการทหารที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน เวลาประมาณเที่ยงคืนวันเดียวกัน เดินทางกลับมายังประเทศไทย 10 ก.ค. ทีม CDCU เข้าตรวจคัดกรองอาการคณะลูกเรือ 31 คน 11 ก.ค. คณะเดินทางออกจากประเทศไทยกลับอียิปต์ ในวันนั้นผลตรวจห้องปฏิบัติการไม่ชัดเจน จึงมีการตรวจซ้ำ จนกระทั่งวันที่ 12 ก.ค. ผลตรวจห้องปฏิบัติการ ยืนยันพบเชื้อโควิด-19

" ช่วงตอนนี้มีการเปิดสายการบินอยู่หลายสาย เดิมเราใช้ทางด้านสุวรรณภูมิ แต่ว่าพอครั้งนี้มาลงที่สนามบินอู่ตะเภา ทำให้มาตรการของการคุมเข้าในเรื่องตรงนี้มีข้อที่ต้องทบทวนกันใหม่เช่นกัน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้(14 ก.ค.) เวลา 11.30 น. ศบค.มีกำหนดการแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ร่วมกับเคสเด็กหญิงวัย 9 ขวบที่มากับครอบครัวทูตติดเชื้อโควิด เพื่อให้รายละเอียดความชัดเจนทั้งหมด

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง :

เปิดมาตรการคุมโควิดกลุ่มยกเว้น “ทหารอียิปต์-ลูกทูตแอฟริกา”