รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้กำลังใจจนท. สาธารณสุข  อสม.ด่านหน้าเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19  เขตชายแดนไทย-เมียนมา

 

วันที่ 20 มิ.ย. ที่ จ.ตาก ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม)ด่านหน้าเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 ในพื้นที่เขตชายแดนไทย-เมียนมา  พร้อมมอบเวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ป้องกันโรค 

ดร.สาธิต กล่าวว่า งานเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19  ของประเทศไทยได้ผลดี มาจากความร่วมมือร่วมใจทำงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข  ฝ่ายความมั่นคง ต่างประเทศ ท้องถิ่น ประชาชน และฝ่ายสนับสนุนที่สำคัญคือ อสม. กว่า 1ล้านคน ที่เสียสละเป็นด่านหน้าทำงานเชิงรุกเคาะประตูบ้านครัวเรือนที่รับผิดชอบ แจ้งข่าวและให้ความรู้ คัดกรองกลุ่มเสี่ยง และส่งต่อเข้ารักษา จนผลงานเป็นที่ประจักษ์ระดับโลก ได้รับคำชื่นชมจากองค์การอนามัยโลกว่าปัจจัยสำคัญที่ต่อสู้โควิด 19 สำเร็จ ปัจจัยหนึ่งคือ อสม.

สำหรับจังหวัดตาก เป็นพื้นที่ที่มีความจำเพาะทั้งสภาพภูมิประเทศ เป็นพื้นที่สูงและความยากลำบากในการเข้าถึงบริการของประชาชน แต่ด้วยความร่วมมือของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม. ทำให้การคัดกรองโรคมีประสิทธิภาพ ไม่พบการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แม้จะมีความเสี่ยงสูงจากการเข้าออกของประชาชนประเทศเพื่อนบ้าน /นักท่องเที่ยว โดยมีด่านคัดกรองหลัก 4 จุดคือด่านตรวจวังเจ้า แม่สลิด วังประจบ ห้วยหินฝน ตั้งแต่ 26 มีนาคม – 17 มิถุนายน 2563 คัดกรองผู้เดินทาง 419,931  คน และด่านพรมแดนไทย – เมียนมา คัดกรองรวม 299 คน รับตัวไว้ที่ Local Quarantine ทั้งหมด

ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อโควิด19 สะสม 3 ราย รักษาหายทั้งหมด มีผู้เข้าเกณฑ์สอบสวน (PUI) 132 ราย ตรวจไม่พบเชื้อ มีผู้สัมผัสใกล้ชิด (Contact case) 45 ราย ติดตามครบกำหนด 14 วันทุกราย และมีผู้ที่มีความเสี่ยงกักกันอยู่ที่บ้านและต้องถูกติดตาม โดยอสม.และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 19,118  ราย นอกจากนี้ อสม.ได้ออกเคาะประตูบ้านเพื่อให้ความรู้และค้นหากลุ่มเสี่ยงอีก 151,501 หลังคาเรือน  

“ขอบคุณ อสม.ทั่วประเทศ  ค่าตอบแทนและสวัสดิการที่จะเพิ่มเติมตามมา เป็นผลจากการทำงานหนักเป็นที่ประจักษ์ระดับโลก ขอให้เดินหน้าต่อสู้กับโรคโควิด 19 ให้สำเร็จ ให้ตัวเลขผู้ป่วยเป็นศูนย์ สร้างความเชื่อมั่นทางสาธารณสุข ช่วยสร้างโอกาสด้านเศรษฐกิจและสังคม จากการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวต่อไป” ดร.สาธิต กล่าว