กระทรวงสาธารณสุข พบผู้ป่วยยืนยัน โควิด-19 อีก 1 ราย เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัยและชุดป้องกันขณะให้การดูแลผู้ป่วย ซึ่งขณะนั้นถูกวินิจฉัยเป็นโรคอื่น กำชับบุคลากรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อจากผู้ป่วยอย่างเคร่งครัด เตรียมจัดอบรมผู้ปฏิบัติงานด้านควบคุมโรคติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรคและคณะแถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า ในวันนี้มีผู้ติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านเพิ่มอีก 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน เพศหญิง อายุ 56 ปี รวมแล้วขณะนี้มีผู้ป่วยหายป่วยแล้วและแพทย์ให้กลับบ้านรวม 14 ราย เหลือนอนโรงพยาบาล 20 ราย
สำหรับผู้ป่วยยืนยันที่อาการหนัก มี 2 ราย ซึ่งมีอาการหนักตั้งแต่แรกรับรักษาที่สถาบันบำราศฯ รายแรกมีภาวะวิกฤตทางระบบทางเดินหายใจ แพทย์พิจารณาใช้เครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอดหรือเครื่องเอคโม (ECMO) ร่วมกับเครื่องช่วยหายใจ รายที่ 2 มีภาวะติดเชื้อวัณโรคปอดร่วมด้วย ผู้ป่วยทั้ง 2 รายได้รับการรักษาเพิ่มเติม โดยนำน้ำเลือดจากผู้ป่วยหายดี (convalescent plasma) มาช่วยในการรักษา ขณะนี้ผู้ป่วยทั้ง 2 รายอาการยังทรงตัว อัตราการแลกเปลี่ยนออกซิเจนในเลือดดีขึ้น ส่วนผู้ป่วยยืนยันรายอื่น ๆ อาการดีขึ้นตามลำดับ
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า วานนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2563) ที่ประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญ 3 ด้าน รายงานพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มอีก 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 35 ปี เป็นบุคลากรทางการแพทย์ มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 27 ถูกจัดอยู่ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่อยู่ในระบบการติดตามเฝ้าระวังของทีมสอบสวนควบคุมโรคตั้งแต่ต้น และรับการตรวจหาเชื้อตามแนวทางการเฝ้าระวังตั้งแต่ก่อนเริ่มมีอาการป่วย ทั้งนี้จากผลการสอบสวนโรค พบว่าผู้ป่วยรายนี้ขณะปฏิบัติงานไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัยและชุดป้องกันขณะให้การดูแลผู้ป่วย ซึ่งขณะนั้นถูกวินิจฉัยเป็นโรคอื่น แต่ต่อมามีอาการไข้ ไอ เหนื่อย ส่งตรวจพบเชื้อโควิด-19 ทีมสวบสวนโรคได้ขยายผลการเฝ้าระวังไปยังเพื่อนร่วมงานอื่นอีก 24 คน ซึ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงผู้ป่วยยืนยันรายที่ 27 เช่นกัน ผลการตรวจไม่พบเชื้อและไม่มีอาการป่วย ไม่มีผู้สัมผัสในครอบครัวเพิ่มเติมเนื่องจากผู้ป่วยอาศัยอยู่หอพักตามลำพัง
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อในบุคลากรสามารถพบได้ ดังเช่นรายงานข้อมูลจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พบว่าตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ มีรายงานบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงสูงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แล้วจำนวน 1,716 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.8 ของผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมดที่ได้รับการยืนยันผลทั่วประเทศจีน และมีบุคลากรที่ติดเชื้อเสียชีวิต 6 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.4 ของผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตทั้งหมดของประเทศจีน
กระทรวงสาธารณสุข ได้กำชับให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อจากผู้ป่วยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะบุคคลากรที่ต้องให้การดูแลผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ จะต้องสวมชุดอุปกรณ์ป้องกันตนเองให้เหมาะสม ในส่วนของโรงพยาบาลต้องมีระบบการป้องกันโรคติดเชื้อตามมาตรฐาน และทบทวนมาตรการและแนวทางป้องกันการติดเชื้อของบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ จะมีการอบรมฟื้นฟูให้กับแพทย์และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อทั่วประเทศอีกครั้งในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นี้ เน้นพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวที่มีสถานพยาบาลเอกชนอยู่เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ขอชี้แจงว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะแพร่กระจายผ่านละอองเสมหะเป็นหลัก ซึ่งผู้รับเชื้อจะต้องอยู่ใกล้ชิดกับผู้ไอ จาม ในระยะประมาณ 1-2 เมตร และต้องสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ เข้าร่างกายผ่านทางเยื่อเมือก จากการนำเชื้อเข้าทางปาก ตา จมูก ควรล้างมือบ่อย ๆ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากเรือ Westerdam เมื่อวานนี้ได้เดินทางเข้าประเทศมาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้งหมด 9 ราย เป็นชาวต่างชาติ 8 ราย คนไทย 1 ราย ตรวจคัดกรองไม่มีไข้ ชาวต่างชาติเดินทางกลับประเทศ ส่วนคนไทยดูแลติดตามเฝ้าระวังตามมาตรฐานป้องกันควบคุมโรค
สำหรับคนไทยที่ไปรับกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน วันนี้เป็นวันที่ 11 ของการเฝ้าระวังโรค ผู้ป่วยยืนยัน 1 รายที่โรงพยาบาลชลบุรี อาการปกติ ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ยังอยู่ในห้องแยก เฝ้าระวังติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง ผลการเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ยังคงพบเชื้อ วางแผนเก็บตัวอย่างส่งตรวจอีกครั้งวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2363 ส่วนคนไทยที่อาคารรับรองสัตหีบ 137 คน ทุกคนสบายดี ไม่มีไข้ และไม่มีผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคเพิ่ม
- 23 views