สถาบันยุวทัศน์ฯ -ศจย.- นักวิชาการ ขอบคุณ รมว.สธ. ประกาศควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ปกป้องนักสูบหน้าใหม่ไม่รับลูกอุตสาหกรรมยาสูบ ยันข้อมูลชี้ชัด 55 ประเทศทั่วโลกคุมเข้ม เพราะมีผลกระทบต่อสุขภาพไม่แพ้บุหรี่แบบมวน
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2562 นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เครือข่ายยุวทัศน์ฯขอขอบคุณ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ประกาศว่า บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ หรือ บุหรี่ไฟฟ้า เป็นสิ่งผิดกฎหมาย และจะคงมาตรการห้ามนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศ และยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตราย เพราะจะส่งผลต่อเด็กและเยาวชน รวมทั้งเป็นการเพิ่มนักสูบหน้าใหม่ โดยสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนเครือข่ายเยาวชนทั่วประเทศไทย ขอขอบคุณ มาตรการสนับสนุนห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยปกป้องเด็กและเยาวชน ไม่ให้กลายเป็นนักสูบหน้าใหม่เพิ่มมากขึ้น
ด้าน ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ขอชื่นชมคุณอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มีจุดยืนเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนอย่างชัดเจน ศจย. ในฐานะศูนย์วิชาการและจัดการความรู้ มุ่งสร้างองค์ความรู้เชิงประจักษ์เพื่อการควบคุมยาสูบของประเทศไทย ได้ให้ความสำคัญในประเด็นการวิจัยเพื่อควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้มีมาตรการจำกัดการเข้าถึง โดยเฉพาะการป้องกันนักสูบหน้าใหม่ในกลุ่มเยาวชน การคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ และการศึกษาผลกระทบทางสุขภาพ เศรษฐกิจ โดยพบว่า ไทยเป็น 1 ใน 55 ประเทศทั่วโลกที่มีมาตรการปกป้องคุ้มครองจากบุหรี่ไฟฟ้า และมีกฎหมายหลายฉบับครอบคลุมว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แสดงให้เห็นว่า ต้องการมุ่งที่จะคุ้มครองสุขภาพประชาชนไทย โดยเฉพาะเยาวชนของชาติ
ด้าน รศ.นพ. นิธิพัฒน์ เจียรกุล นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า อยากส่งข้อเสนอถึง นายอนุทิน ภายหลังจากเข้ารับตำแหน่ง เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาที่กำลังคุกคามสุขภาพปอดของคนไทย คือ 1.การแก้มลพิษในอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ซึ่งมีผลคุกคามไม่ต่างกับพิษจากควันบุหรี่ ทั้งโรคถุงลมโป่งพอง มะเร็งปอด ปอดอักเสบ วัณโรค และที่สำคัญคือ สมรรถภาพปอดถดถอยของเยาวชน 2.การแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีข้อมูลชัดเจนว่า หากไม่ควบคุมจะมีพิษภัยในทุกด้านไม่ด้อยกว่าบุหรี่ดั้งเดิม และส่งเสริมมลพิษในอากาศให้เพิ่มมากขึ้นด้วย 3.สารสกัดกัญชา ที่มีประโยชน์ในทางการแพทย์ แต่หากไม่ควบคุมการใช้ให้เหมาะสม จะทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง ได้แก่ การหายใจล้มเหลว หัวใจวาย ไตวาย และ ประสาทหลอน และ 4.สารเคมีกำจัดศัตรูพืช โดยเฉพาะพาราควอต ทำให้อวัยวะภายในที่สำคัญล้มเหลว โดยเฉพาะปอด ไต และตับ ควรมีการยกเลิกการนำเข้าอย่างถาวร โดยแร่ใยหิน ยังเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งเยื่อหุ้มปอด ปอดเป็นพังผืด และมะเร็งปอด แม้จะมีการควบคุมการใช้ แต่ยังไม่มีการยกเลิกการนำเข้าอย่างถาวร
- 15 views