3 มิถุนายนที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเยือนสหราชอาณาจักรเข้าร่วมหารือกับนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ โดยได้มีการหยิบยกหลากหลายประเด็นมาพูดถึงบนโต๊ะประชุม ทั้งยังร่วมถึงข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรหลังจาก Brexit
โดยทรัมป์มีความสนใจอย่างยิ่งต่อระบบประกันสุขภาพหรือ NHS (National Health Service) ของสหราชอาณาจักร พร้อมกล่าวว่าในประเด็นเจรจาข้อตกลงทางการค้าควรมีเรื่องนี้อยู่ด้วย
“เมื่อเรากำลังทำการเจรจาข้อตกลงทางการค้า แน่นอนว่าทุกอย่างจะถูกหยิบยกมาพูดถึงบนโต๊ะ รวมถึง NHS และอื่นๆ ที่มากกว่านั้น” คือคำกล่าวของโดนัลด์ ทรัมป์
สอดคล้องกับ วู้ดดี้ จอห์นสัน (Woody Johnson) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหราชอาณาจักรที่มองว่า ทุกสิ่งที่สามารถทำการค้าได้ควรถูกหยิบยกมาพูดในการเจรจาทางการค้า เมื่อมองว่า NHS ของสหราชอาณาจักรมีประสิทธิภาพและศักยภาพสูง
สวนทางกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรที่ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง โดยเทเรซ่า เมย์ได้ตอบปฏิเสธไปอย่างสุภาพว่าเรื่องนี้ควรให้ทั้ง 2 ฝ่ายเจรจากัน
ด้านเจเรมี คอร์บิน (Jeremy Corbyn) หัวหน้าพรรคแรงงาน หนึ่งตัวเต็งแคนดิเดตตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรได้ทวีตข้อความวิดีโอที่ประธานาธิบดีพูดในประเด็นดังกล่าวพร้อมเขียนข้อความว่า “NHS ของเราไม่ได้มีไว้ขาย”
เป็นไปในทิศทางเดียวกับดอมินิค ราบ (Dominic Raab) สส.จากพรรคอนุรักษ์นิยมและอีกหนึ่งตัวเต็งแคนดิเดตนายรัฐมนตรีอังกฤษได้ทวิตว่า “NHS ของเราไม่ได้มีไว้ขายสำหรับประเทศไหนก็ตาม และจะไม่มีทางเกิดขึ้นหากผมได้เป็นนายกรัฐมนตรี”
โดยระบบ NHS นั้นอยู่คู่กับชาวสหราชอาณาจักรมาอย่างยาวนานเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1948 ทั้งยังเคยมีโพลออกมาแล้วด้วยว่าประชาชนชาวอังกฤษชื่นชอบระบบ NHS มากกว่าราชวงศ์หรือกองทัพทหารอังกฤษมากกว่า แม้จะยังมีหลายคนเป็นห่วงและกังวลเกี่ยวกับระบบดังกล่าว เมื่ออังกฤษเตรียมจะออกจากสหภาพยุโรปในเร็ววันนี้ ซึ่งไม่เพียงจะส่งผลกระทบต่อชาวอังกฤษแต่จะรวมถึงประชาชนชาวยุโรปที่เข้ามาทำงานในอังกฤษเองด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการที่ทรัมป์ได้ทำการเสนอไปเช่นนั้น ส่งผลให้เกิดความกลัวว่า NHS จะถูกแปรรูปเป็นเอกชนและสร้างผลกำไรที่เอื้อประโยชน์ให้กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยาและเครื่องมือทางการแพทย์ขั้นสูงต่าง ๆ นอกเหนือจากนั้นยังเป็นชี้ว่า สหรัฐฯ นั้นพร้อมแล้วที่จะเข้าสู่ตลาดดังกล่าวแล้ว
- 17 views