สธ.มอบนโยบาย รพศ./รพท. ยึดหลักธรรมาภิบาล แยกประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวม

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มอบนโยบายผู้บริหารโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ยึดหลักธรรมาภิบาล เน้นแยกประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวม สร้างกลไกป้องกันการทุจริต ให้เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ ด้วยหลักคิด“แก้ทุจริต ต้องคิดแยกแยะ”

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2562 ที่ ศูนย์ประชุมสาเกตฮอลล์ ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมพัฒนาศักยภาพผู้บริหารโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ประจำปี 2562 และมอบนโยบายการดำเนินงานปีงบประมาณ 2562 ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อให้การบริหารจัดการเป็นเลิศ โปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล ตามเกณฑ์การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ แก่ผู้อำนวยการโรงพยาบาล รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์และบุคลากรจากโรงพยาบาลศูนย์/ โรงพยาบาลทั่วไป จำนวนกว่า 300 คน

นพ.สุขุม กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดยุทธศาสตร์ ในการพัฒนาความเป็นเลิศ 4 ด้าน ได้แก่ ส่งเสริมสุขภาพและความป้องกันโรคเป็นเลิศ บริการเป็นเลิศ บุคลากรเป็นเลิศ และบริหารจัดการเป็นเลิศ เป็นกรอบให้หน่วยงานในสังกัดทุกแห่งดำเนินการ โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการเป็นเลิศหรือการบริหารจัดการที่ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่า ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญ 6 ประการ คือ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า

นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า การบริหารจัดการที่ดีนั้น ผู้บริหารโรงพยาบาล ต้องมีความเที่ยงธรรม สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ ส่วนผู้ปฏิบัติงานมีจิตสำนึกในการทำงาน มีความรับผิดชอบ เป็นการป้องกันการทุจริตผ่านจิตสำนึก ปลูกฝังความซื่อสัตย์ สุจริต ปรับฐานความคิดในการแยกเรื่องระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับผลประโยชน์ส่วนรวม ด้วยวิธีคิดแบบระบบเลขฐานสอง (Digital Thinking) ภายใต้แนวคิด“แก้ทุจริต ต้องคิดแยกแยะ” สร้างกลไกป้องกันการทุจริตให้มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

“การประชุมในวันนี้ เป็นการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปจากทั่วประเทศ ถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์การบริหารงานจากผู้บริหารรุ่นเก่าสู่ผู้บริหารรุ่นใหม่ และสร้างเครือข่ายสุขภาพที่เข้มแข็ง อย่างไรก็ตามขอให้นำหลักธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นการบริหารแนวใหม่ ไปใช้บริหารงาน เพราะเชื่อมั่นว่าจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือความเป็นธรรม ความสุจริต ความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล” นพ.สุขุม กล่าว