รวมพลังสาธารณสุขอำเภอ 878 อำเภอทั่วประเทศ ร่วมใจสร้างประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ ปั่นชวนเลิกบุหรี่ ในโครงการ 6x4 ปั่น ปลุก ลุก สร้าง กระแสรณรงค์โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน ปีที่ 3 ผ่าน 63 จังหวัด 14 วัน รวมระยะทาง 5,828 กม.
โครงการ “6x4 ปั่น ปลุก ลุก สร้าง กระแสรณรงค์โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน ปีที่ 3” ภายใต้แนวคิด “ปั่นปอดยิ้ม” ซึ่งเป็นความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย สมาคมหมออนามัย ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข อสม. และภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ เพื่อชักชวน เชิญชวน ท้าชวน ให้คนที่สูบบุหรี่เป็นประจำ เลิกสูบบุหรี่ให้ได้ 3 ล้านคน ในเวลา 3 ปี (มิ.ย. 2559 – พ.ค. 2562) โดย 2 ปี ที่ผ่านมา มีผู้สมัครใจเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 1.3 ล้านคน สามารถเลิกบุหรี่ ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป 1.3 แสนคน
และในปี 2561 นับเป็นก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 3 จึงได้ผนึกกำลังเดินหน้าช่วยให้คนไทยเลิกบุหรี่เพิ่มขึ้น ด้วยการปลุกกระแสออกกำลังกาย ทำให้ห่างไกลจากบุหรี่ โดยการนำกิจกรรมปั่นจักรยานสร้างเสริมสุขภาพ ลดการเจ็บป่วยและสูญเสียจากการสูบบุหรี่ ร่วมทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ 9 และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในเส้นทาง 8 สายปั่น ผ่าน 63 จังหวัด เวลา 14 วัน รวมระยะทาง 5,828 กม. เริ่มแรกสายเหนือวันที่ 27 มิถุนายน 2561 และ สิ้นสุดวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 ที่กระทรวงสาธารณสุข รวมระยะ14 วัน โดยมีคู่รักนักปั่นรอบโลก ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้คนทั้งโลกได้รู้จักประเทศไทย ในนาม คุณหมู-คุณวรรณ โอทอง นักปั่นสร้างแรงบันดาลใจ ร่วมกิจกรรมของการปั่นทำความดีในครั้งนี้ด้วย และจะมีการจัดพิธีมอบประกาศนียบัตรและเหรียญเชิดชูเกียรติแก่ นักปั่นกิตติมศักดิ์ และนักปั่นหลักตลอดสายปั่นทั้ง 8 สาย ในวันที่ปั่นถึงกระทรวงสาธารณสุข
นายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย กล่าวว่า การดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน ที่ผ่านมาทำได้ดี แต่เพื่อให้การขับเลื่อนเป็นไปอย่างต่อเนื่องและ เกิดสร้างกระแสให้คนไทยเลิกบุหรี่เพิ่มมากขึ้น จึงต้องทำอย่างเข้มข้นต่อไป ซึ่งเครือข่ายหมออนามัย และ อสม.โดยเฉพาะ สาธารณสุขอำเภอทั่วประเทศและภาคีเครือข่ายที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการฯ ดังกล่าวนี้ ต้องขอชื่นชมบุคลากรสาธารณสุขทุกท่านที่ร่วมกันผลักดันและเป็นต้นแบบที่ดีของการเลิกสูบบุหรี่ ตลอดจนร่วมกันต่อยอดดำเนินงานในปีที่ 3 ด้วยการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ ปลุกกระแสคนไทยให้เลิกสูบบุหรี่ ด้วยกิจกรรมรณรงค์ปั่นจักรยานชวนเลิกบุหรี่จากทั่วประเทศเข้าสู่กระทรวงสาธารณสุข
นายประพัทธ์ ธรรมวงศา นายกสมาคมชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทุกความร่วมมือร่วมใจของเครือข่ายหมออนามัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สาธารณสุขอำเภอ 878 อำเภอทั่วประเทศ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข อสม. และประชาชนทุกคน กิจกรรมครั้งนี้เป็นประวัติศาสตร์สำคัญที่จะได้ร่วมมือกันแสดงพลังหมออนามัย ลดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาวะที่สมบูรณ์แข็งแรงและสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสุขภาพต่อไป
นายปิ่น นันทะเสน นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เปิดโอกาสให้ สสอ.ทั่วประเทศ ได้แสดงพลังสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ด้วยการปั่นจักรยานมารณรงค์เรื่องบุหรี่ เพราะการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน จะช่วยลดอัตราการตายลงร้อยละ 10 และการปั่นจักรยาน 1 ชั่วโมงช่วยให้ชีวิตยืนยาวขึ้นอีก 1 ชั่วโมง ดังนั้น การปั่นจักรยานจะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น จึงขอชวนประชาชนคนไทย ทุกคนออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพดีต่อไป
นายมงคล เงินแจ้ง นายกสมาคมหมออนามัย กล่าวว่า ตลอดเส้นทางสายปั่นทั่วประเทศได้เกิดกระแสความร่วมมือและความตื่นตัวของหน่วยงาน องค์กร บุคลากรสาธารณสุข และประชาชนในพื้นที่ทุกระดับ หลายจังหวัดมี ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมขับเคลื่อนรณรงค์กิจกรรม ซึ่งแต่ละจังหวัดที่ผ่านมีทั้งเรื่องราวที่น่าประทับใจ เกิดปัญหาอุปสรรคต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ร้อนจัด ฝนตกตลอดเส้นทาง แต่ทุกคนก็มุ่งมั่นฟันฝ่าอย่างเต็มที่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ อย่างเช่นที่ สายภาคเหนือเชียงราย ได้มีผู้พิการนั่งวิลแชร์ปั่นร่วมขบวนปั่นจักรยานเพื่อแสดงออกถึงความห่วงใยที่อยากเห็นทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรคและห่างไกลบุหรี่ ซึ่งตลอดระยะทางปั่นได้กำหนดให้มีกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติทุกจังหวัดที่เป็นเส้นทางผ่าน จัดแสดงนิทรรศการ ส่งมอบรายชื่อผู้สมัครใจเข้าร่วมโครงการฯ พร้อมประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน เพื่อสร้างความตื่นตัว ตระหนักถึงผลกระทบพิษภัยที่เกิดจากการสูบบุหรี่
ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 14 วัน ได้ปั่นผ่าน 63 จังหวัด 8 สายปั่น ได้แก่
1.สายเหนือ จ.เชียงราย
2.สายใต้ จ.สตูล
3.สายอีสาน จ.หนองคาย
4.สายใต้ จ.สงขลา
5.สายอีสาน จ.นครพนม
6.สายอีสาน จ.มุกดาหาร
7.สายตะวันออก จ.ตราด
และ 8.สายตะวันตก จ.กาญจนบุรี ร่วมกับภาคีเครือข่าย และชมรมนักปั่นจักรยานทั่วประเทศตลอดเส้นทาง โดยจะปั่นถึงกระทรวงสาธารณสุข ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 นี้
- 95 views