มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย เผยผลการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ 25 คน “ธาดา วรรธนปิยกุล” ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการเป็นสมัยที่ 3 ย้ำพร้อมนำองค์กรสู่ความสำเร็จ พร้อมขับเคลื่อนงานสุขภาพและสร้างสังคมสุขภาวะอย่างยั่งยืน

มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย จัดประชุมสรุปผลการดำเนินงานและเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่หลังชุดเก่าหมดวาระลง เพื่อขับเคลื่อนงานสุขภาพและสร้างสังคมสุขภาวะที่ดีให้กับประชาชน โดยครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดที่ 5 ตั้งแต่มีการก่อตั้งมา วาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี (พ.ศ.2562– 2566) ตามข้อบังคับของมูลนิธิ ฯ ซึ่งการดำเนินงานสำคัญของมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย ผลงานที่ผ่านมา เช่น การดำเนินงานของสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) การพัฒนาศักยภาพหมออนามัยใน หลักสูตร นนส. และ นสช. การจัดทำวารสารหมอนามัย วารสารวิชาการของหมออนามัย การเป็นองค์กรแกนนำร่วมกับภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนเชิญชวนคนไทย ร่วมลงรายชื่อรวมพลัง 15 ล้านรายชื่อ เพื่อสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 การสร้างขวัญกำลังใจให้หมออนามัยเชิดชูเกียรติ การคัดเลือกหมออนามัยคนดีศรีแผ่นดิน และล่าสุดคือ การดำเนินงานโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทยเทิดไท้องค์ราชัน ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)

สำหรับผลการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ รายนามดังต่อไปนี้

1.นายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานกรรมการ

2.นายกษิดิศ ขันธรัตน์ รองประธานคนที่ 1

3.นางแพรวพรรณ บุษยมาลย์ ประธานภาคใต้

4.นายศุกรี รัตน์ประโคน ประธานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

5.นายศักดิ์ดา ธานินทร์ ประธานภาคเหนือ

6.นายมานพ ทองตัน ประธานภาคกลาง

7.นายสนอง คล้ำฉิม เหรัญญิก

8.นางวิมาลา พุทธวัน ผู้ช่วยเหรัญญิก

กรรมการประกอบด้วย

9.นายสาธิต สว่างแสง

10.นายเชวง บุรีรักษ์

11.นางลัดดาวัลย์ โปธาตุ

12.นายมะยม สุพรรณ

13.นายนรศักดิ์ เงางาม

14.นายทองดี มุ่งดี

15.นางสกาวเดือน ระดมกิจ

16.นายวิเชียร จิตต์พิศาล

17.นางบุปผา เทพณรงค์

18.นายสมบัติ กำจรฤทธิ์

19.นายวันชัย บ่อเงิน

20.นางจำเนียร วรรณารักษ์

21.นายถนอมชัย บุญมาคลี่

22.นายรณภพ เกตุทอง

23. นายชนสิษฎ์ กาญจนภาคิน

24.นายชัยวัฒน์ ภูทอง กรรมการ/เลขานุการ

25.นางฉวีวรรณ จันทะรักษ์ กรรมการ/ผู้ช่วยเลขานุการ

นายธาดา วรรธนปิยกุล

นายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานกรรมการมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย กล่าวว่า ในฐานะประธานมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย สมัยที่ 3 จะนำพาองค์กรขับเคลื่อนงานด้านสุขภาพและสร้างสังคมสุขภาวะ โดยเฉพาะการสนับสนุนการทำงานของหมออนามัยในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ การพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิและชุมชน รวมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนกิจการสาธารณสุขทุกสาขา สนับสนุนการสร้างเครือข่ายสุขภาพให้มีความเข้มแข็งและสร้างระบบสุขภาพที่ยั่งยืน สนับสนุนส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีกับองค์กร หน่วยงาน ชมรมอื่น ๆ ในการพัฒนางานสาธารณสุขของประเทศ ตลอดจนสนับสนุนการค้นคว้าวิจัย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น การเพิ่มพูนความรู้แก่ประชาชนและแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์กับทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง

“ต้องขอขอบคุณคณะกรรมการมูลนิธิฯทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจผมอีกสมัยหนึ่ง ซึ่งเป็นการดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 3 ผมจะตั้งใจทำงาน ตามบทบาทหน้าที่อย่างเต็มความรู้ความสามารถให้ดีที่สุด ภายใต้การทำงานเป็นทีม และมีส่วนร่วมของคณะกรรมการ ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมดำเนินการ ร่วมประเมินผล และร่วมรับผลประโยชน์ตามหลักการบริหารองค์กรแบบ 3 C คือ Clear Clean Correct ยกระดับการทำงานขององค์กรและกรรมการ ให้มีการทำงานเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

นายธาดา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ต่างยอมรับว่าการบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ ไม่เพียงแต่เป็นคำตอบสำคัญช่วยให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างทั่วถึง แต่ยังลดความแออัดการบริการในโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิและตติยภูมิลงได้ ทั้งในแง่การกระจายผู้ป่วยเพื่อรับบริการในระดับปฐมภูมิและการลดอัตราการป่วยด้วยงานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ประกอบกับปัจจุบัน ได้มีกฎหมาย พ.ร.บ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562 ออกมา มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งในอนาคตอยากให้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญงานระบบสุขภาพปฐมภูมิ งานสร้างสุขภาพ มากกว่างานซ่อม และให้การสนับสนุน ทรัพยากร คน เงิน ของ อย่างเต็มที่ในการพัฒนาสุขภาพระดับปฐมภูมิ มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อพัฒนาสุขภาแอพอนามัยของประชาชนคนไทย ให้มีสุขภาวะที่ดียิ่งขึ้นต่อไป