เล็งตั้งกองทุนเยียวยาพยาบาลพิการ/เสียชีวิต ย้ำแค่ช่วยเบื้องต้น สธ.ต้องดูแลระยะยาว

สภาการพยาบาลเล็งจัดกิจกรรมระดมทุนตั้งกองทุนช่วยเหลือเยียวยาพยาบาลที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต/พิการย้ำหวังช่วยดูแลในเบื้องต้น แต่การดูแลระยะยาวต้องเป็นบทบาทของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรมมากกว่าปัจจุบันนี้

รศ.ดร.ทัศนา บุญทอง

รศ.ดร.ทัศนา บุญทอง นายกสภาการพยาบาล เปิดเผยว่า สภาการพยาบาลมีแนวคิดในการระดมทุนเพื่อจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเยียวยาพยาบาลที่ประสบอุบัติเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่จนบาดเจ็บเสียชีวิตหรือพิการ โดยผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการสภาฯ เมื่อเดือนที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีรูปแบบการระดมทุนอย่างไร

อย่างไรก็ตาม แนวคิดการจัดตั้งกองทุนนี้เป็นเพียงการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นหลังเท่านั้น โดยมุ่งหวังว่าจะช่วยบรรเทาความทุกข์ของผู้เสียหายและญาติได้บ้างในช่วงที่ประสบเหตุในระยะแรก แต่คงไม่ใช่เงินช่วยเหลือในระยะยาวเพราะการช่วยเหลือในระยะยาวควรเป็นบทบาทของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นหลักที่ต้องวางระบบการเยียวยาที่เป็นรูปธรรมและเป็นธรรมมากกว่านี้

“อันนี้ต้องทำความเข้าใจให้ชัด ไม่ใช่ว่าสภาการพยาบาลตั้งกองทุนแล้วรัฐบาลหรือ สธ.จะบอกว่ามีคนทำแล้ว ตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องทำอีกนะ เพราะน้องๆ เหล่านี้เป็นคนของราชการ ราชการต่างหากที่ควรดูแลและควรดูแลในระยะยาว” รศ.ดร.ทัศนา กล่าว

นายกสภาการพยาบาล ขยายความต่อไปว่า ที่ผ่านมาเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถ Refer จนพยาบาลเสียชีวิตหรือพิการตลอดชีวิต ผู้เสียหายไม่ได้รับการช่วยเหลืออะไรเลย มีเพียงการช่วยให้อยู่ในระบบราชการต่อไป แต่ในความเป็นจริงผู้เสียหายควรได้รับการเยียวยามากกว่านี้ บางรายพิการมา 5 ปี 7 ปี ก็อยู่ต่อไปตามยถากรรม แบบนี้ถือว่าใจดำและ สธ.ต้องแก้ปัญหาให้ได้ ที่ผ่านมา สภาการพยาบาลได้เรียกร้องไปยัง สธ. และรัฐบาลหลายครั้งให้มีการจัดระบบช่วยเหลือในระยะยาว แต่เรื่องก็เงียบ อย่างไรก็ตาม สภาการพยาบาลจะคอยกระตุ้นในประเด็นนี้ต่อไปจนกว่าจะมีการแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น

“ไม่ใช่แค่ Maintain ให้อยู่ในระบบราชการต่อก็พอแล้ว แบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง อย่างล่าสุดน้องพยาบาล รพ.เขาคิชฌกูฎ ที่ประสบอุบัติเหตุจนอัมพาตครึ่งตัว น้องไม่ได้รับความช่วยเหลืออะไรเลย มีแค่ให้คงไว้ในระบบราชการเท่านั้นเอง แล้วส่วนใหญ่น้องที่ประสบอุบัติเหตุจะอยู่ในวัยหนุ่มสาว ในวัยสร้างครอบครัว เมื่อได้รับความเสียหาย ก็ควรได้รับการดูแลที่สมเหตุสมผลเพื่อบรรเทาความทุกข์ให้เบาบางลงมากกว่านี้” รศ.ดร.ทัศนา กล่าว