กระทรวงสาธารณสุข ย้ำเตือนประชาชนระวังป่วยโรคปอดบวม รอบ 7 เดือนปีนี้ พบผู้ป่วยแล้วกว่า 100,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็กเล็ก เสียชีวิต 372 ราย แนะผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หากป่วย 3 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น ไข้ไม่ลดลง น้ำมูกเปลี่ยนสีเขียวข้น หายใจหอบ ให้รีบพบแพทย์ทันที
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า สภาพที่มีฝนตกชุกในช่วงนี้ อากาศจะมีความชื้นสูง ทำให้ผู้มีสุขภาพไม่แข็งแรงหรือมีภูมิต้านทานน้อย เจ็บป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจได้ง่าย และพบบ่อยคือโรคปอดบวม ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของโรคติดเชื้อทั้งหมด มักเป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือโรคอื่นๆ เช่น หัด พบบ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง โรคเบาหวาน หรือผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ศ.นพ.รัชตะกล่าวต่อว่า ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ จากรายงานโรค สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบในรอบ 7 เดือนนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-3 สิงหาคม มีรายงานพบผู้ป่วยโรคปอดบวม 107,429 ราย เกือบร้อยละ 70 เป็นผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปและเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มีผู้เสียชีวิตรวม 372 ราย จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับแรกคือ ศรีสะเกษ อ่างทอง เชียงราย มหาสารคาม และฉะเชิงเทรา
นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคปอดบวมเป็นโรคที่มีความรุนแรงสูง เกิดจากการติดเชื้อหลายชนิด เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส มักเป็นโรคแทรกซ้อนหลังป่วยไข้หวัดประมาณ 3 วัน โดยผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอมีเสมหะ น้ำมูกเปลี่ยนสีจากสีเหลืองเป็นสีเขียวข้น เจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบง่าย เด็กเล็กและผู้สูงอายุ อาจจะมีอาการเหล่านี้ไม่ชัดเจนหรือไม่ครบทุกอย่าง จึงควรให้ความสนใจมากกว่าปกติ เช่น ในผู้สูงอายุอาจจะมีไข้ หรือตัวอุ่นๆ และอาการซึมลง ส่วนในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี จะมีไข้สูง ซึม ไม่ดื่มน้ำหรือนม หายใจหอบเร็วหรือหายใจมีเสียงดังหวีดหรือหายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม หากมีอาการดังกล่าวขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที จะช่วยลดอาการรุนแรงได้
อย่างไรก็ตาม ในการป้องกันโรคปอดบวม ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้าให้ร่างกายอบอุ่น เพิ่มการรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย ใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ถ้าป่วยเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ขอให้พักผ่อนมากๆ ควรหยุดทำงาน หยุดเรียน อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น ให้ใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอหรือจาม หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนแออัด และล้างมือให้สะอาดทุกครั้งภายหลังสัมผัสผู้ป่วยหรือสิ่งของ หากมีข้อสงสัยปรึกษาได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 ตลอด24 ชั่วโมง
- 2 views