รมว.สธ. ยืนยันผู้ป่วยที่จังหวัดระยองเป็นเพียงไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ไม่ใช่โรคเมอร์ส ส่วนข่าวเพื่อนที่เดินทางมาจากเกาหลีและเสียชีวิตที่ จ.อุบลราชธานี ตรวจสอบเบื้องต้นทุกโรงพยาบาลไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ ชี้แม้ไทยจะประกาศปลอดจากการแพร่ระบาด แต่ยังเข้มระบบเฝ้าระวังป้องกันโรคเต็มที่
วันนี้ (22 กรกฎาคม 2558) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากรณีข่าวพบผู้ป่วยจังหวัดระยองสงสัยว่าจะเป็นโรคเมอร์สว่า ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และของสถาบันบำราศนราดูร ไม่พบการติดเชื้อโรคเมอร์ส เป็นเพียงโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 3 เอ็น 2 (H3N2) ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล อยู่ระหว่างการดูแลรักษาของแพทย์จนกว่าจะหายป่วย ส่วนเพื่อนที่เดินทางมาจากเกาหลี และมีข่าวเสียชีวิตที่จังหวัดอุบลราชธานีนั้น ขณะนี้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี และทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว อยู่ระหว่างติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยในเบื้องต้นได้ตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลในจังหวัด ไม่พบว่ามีผู้เสียชีวิตที่สงสัยดังกล่าว
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวต่อว่า องค์การอนามัยโลกระบุว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคเมอร์สมาจากต่างประเทศ และสามารถควบคุมได้ดี ไม่มีการติดต่อหรือระบาดในประเทศไทยแต่อย่างใด แต่ยังคงระบบการเฝ้าระวังป้องกันโรคอย่างเข้มข้นเต็มที่ทุกแห่ง ซึ่งทำให้กระทรวงสาธารณสุข ยังคงมีรายงานผู้เดินทางที่มีอาการและต้องดำเนินการสอบสวนโรคทุกวัน กรณีการพบผู้ป่วยที่จังหวัดระยองเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบว่าเมื่อใดที่มีกรณีผู้เข้าข่ายสอบสวน ไม่ว่าจะเดินทางมาจากพื้นที่ติดโรค หรือสัมผัสกับผู้ป่วยที่เดินทางจากพื้นที่ติดโรค แล้วมีอาการไข้หวัด ไอ จะมีการตรวจวินิจฉัยและแยกบริเวณในการดูแลเป็นการเฉพาะไม่ปะปนกับผู้อื่น และต้องได้รับการวินิจฉัยสาเหตุที่แน่ชัดโดยเร็ว ขณะเดียวกันจะติดตามผู้ที่สัมผัสกับผู้ที่เข้าข่ายสอบสวน เพื่อสังเกตอาการต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค จนกว่าจะทราบผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการว่าไม่ติดเชื้อเมอร์ส
ขอชื่นชมแพทย์พยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยรายนี้ ที่มีความละเอียดในการซักประวัติผู้ป่วยและมีมาตรการแยกผู้ป่วยที่รัดกุมรวดเร็ว อย่างไรก็ตามข่าวสารที่ออกทางสื่ออิเลคทรอนิกส์หลายแหล่งมีความคลาดเลื่อนอยู่มาก เช่น ข่าวปิดโรงพยาบาล เป็นต้น อาจทำให้ประชาชนทั่วไปตื่นตระหนกไม่เป็นผลดีต่อประเทศ ขอให้ประชาชนอย่าตระหนกและติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องได้ที่เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค หรือสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วน 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง และขอย้ำว่าประชาชนที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ประเทศแถบตะวันออกกลางหรือประเทศเกาหลีใต้ และมีอาการไข้ ไอ หรือเจ็บคอ ควรสวมใส่หน้ากากอนามัย และโทรศัพท์แจ้ง 1669 หรือ 1422 เพื่อให้โรงพยาบาลจัดรถไปรับ ป้องกันการแพร่กระจายของโรค
- 5 views