37 องค์กรสาธารณสุขเตรียมบุกพบนายกฯ อังคารที่ 17 ก.พ. ให้สั่ง สธ.แก้ไขตัวเลขกลุ่มคนไร้สถานะที่จะเสนอเพิ่มเข้าไปในกองทุนให้สิทธิสาธารณสุขตามมติครม. 23 มี.ค.53 ให้ถูกต้อง หลัง สธ.เสนอตัวเลขเก่า 1.7 แสนคน แต่ข้อมูลจริงจากมหาดไทยมีกว่า 2 แสนคน ทำคนตกหล่นไม่ได้รับสิทธิถึง 3.8 หมื่นคน เผยเสนอสธ.หลายครั้ง แต่ไม่มีการตอบสนอง จึงต้องยื่นให้นายกฯแก้ไขแทน พร้อมทั้งเร่งรัดให้เสนอเพิ่มคนไร้สถานะให้ได้รับสิทธิสาธารณสุขเข้าครม.ไปก่อน ส่วนแผนยุทธศาสตร์จัดการสิทธิสุขภาพคนไร้สถานะขอให้ผ่านการมีส่วนร่วมภาคประชาชนก่อน แล้วจึงเสนอทีหลัง

15 ก.พ.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 37 องค์กรด้านสาธารณสุข ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง “เรียกร้อง สธ.แก้ไขข้อเสนอจัดการสิทธิสุขภาพคนไร้สถานะและสิทธิให้ถูกต้อง เร่งรัดนำเข้าครม.ขอมีส่วนร่วมจัดทำแผนยุทธศาสตร์” โดยระบุว่า นโยบายการจัดบริการสุขภาพให้กลุ่มคนไร้สถานะเป็นหนึ่งในนโยบายที่ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สธ. และ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สธ. ประกาศเมื่อครั้งรับตำแหน่ง 13 ก.ย.57 แต่เมื่อมีการนำเสนอตัวเลขกลุ่มคนไร้สถานะเพิ่มเข้าไปในกองทุนให้สิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขตามมติ ครม. 23 มี.ค.53 กลับมีการเสนอตัวเลขที่ไม่ถูกต้องให้ ครม.พิจารณา คือเสนอข้อมูลเก่า 170,535 คน ขณะที่ข้อมูลจริงที่ 37 องค์กรฯ เคยทำข้อเสนอให้ สธ. ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้จากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย 208,631 คน ดังนั้นจะเห็นว่าตัวเลขที่สธ.เสนอทำให้คนไร้สถานะตกหล่น ถึง 38,096 คน

จึงขอเรียกร้องให้แก้ไขจำนวนกลุ่มคนไร้สถานะให้ถูกต้อง โดยให้ยึดข้อมูลจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย คือ 208,631 คน และหนังจากแก้ไขตัวเลขแล้ว ให้รีบนำเสนอเรื่องนี้ให้ครม.พิจารณาโดยทันที ไม่ต้องรอเสนอรวมกับแผนยุทธศาสตร์การจัดการสิทธิในบริการสาธารณสุขของบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิในภาพรวม เพราะกลุ่มคนไร้สถานะกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ตกหล่น ยิ่งรอนานยิ่งมีผลกระทบกับประชาชน ละเมิดสิทธิมนุษยชนประชาชนมากขึ้นไปอีก และสร้างภาระให้กับโรงพยาบาลมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมา 37 องค์กร เคยเข้าพบเพื่อพูดคุยและหารือกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมา 5 ครั้งแล้ว แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ แม้กระทรวงสาธารณสุขจะประกาศเป็นนโยบายตั้งแต่เมื่อครั้งรับตำแหน่ง 13 ก.ย.57 แต่เวลาล่วงเลยจนบัดนี้เวลาเกือบ 6 เดือนแล้ว ยังไร้ความคืบหน้า มีหนำซ้ำยังเสนอข้อมูลประชากรที่เป็นตัวเลขผิดให้ครม.พิจารณาอีกด้วย

ส่วนประเด็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่สธ.ดำเนินการนั้น 36 องค์กรฯ เห็นด้วยในการจัดทำเป็นแผนยุทธศาสตร์การจัดการสิทธิในบริการสาธารณสุขของบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิในภาพรวม แต่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ฯ ที่ผ่านมาของสธ.นั้น ขาดการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้สธ.เสนอตัวเลขกลุ่มคนไร้สถานะซึ่งเป็นตัวเลขเก่า และเป็นข้อมูลที่ผิดพลาดให้ ครม.พิจารณา ดังนั้น ขอให้กระบวนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ฯ ของสธ.เปิดกว้างให้ผู้มีส่วนร่วมได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์อย่างรอบคอบ ตอบสนองสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงด้วย

นายวิวัฒน์ ตามี่ 

ด้านนายวิวัฒน์ ตามี่ เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย(คชท.) ในฐานะตัวแทน 37 องค์กรด้านสาธารณสุขและเครือข่ายแพทย์ตามแนวชายแดน กล่าวว่า วันอังคารที่ 17 ก.พ.นี้ 37 องค์กรฯ จะไปยื่นหนังสือให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ดำเนินการกำกับและควบคุมให้ นพ.รัชตะ และ นพ.สมศักดิ์ แก้ไขข้อมูลจำนวนกลุ่มคนไร้สถานะที่สธ.เสนอตัวเลขที่ผิด และทำให้คนไร้สถานะตกหล่นถึง 3.8 หมื่นคน เนื่องจากเคยนำเสนอเรื่องนี้กับ นพ.สมศักดิ์ไปแล้ว แต่ก็ไม่มีการแก้ไขใดๆ จึงต้องยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรี

“ก่อนหน้านี้ ทางเครือข่ายฯ มีความหวังว่าการแก้ไขปัญหาสิทธิสุขภาพคนไร้สถานะและสิทธิจะมีความก้าวหน้า เพราะมีการประกาศเป็นหนึ่งในนโยบาย 10 ข้อ แต่จนถึงขณะนี้รู้สึกผิดหวังอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการไม่รับฟังข้อมูลตัวคนไร้สถานะที่จะเพิ่มเข้าไป รวมถึงการไม่มีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์” นายวิวัฒน์ กล่าว

แถลงการณ์ 37 องค์กรด้านสาธารณสุข

เรื่อง “เรียกร้อง สธ.แก้ไขข้อเสนอจัดการสิทธิสุขภาพคนไร้สถานะและสิทธิให้ถูกต้อง เร่งรัดนำเข้าครม.

ขอมีส่วนร่วมจัดทำแผนยุทธศาสตร์”

15 กุมภาพันธ์ 2558

หลังจากการเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ของ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน ในตำแหน่ง รมว.สธ. และ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สธ. หนึ่งในนโยบาย 10 ข้อ ที่ทั้ง 2 รมต.ได้ประกาศไว้ เมื่อวันที่ 13 ก.ย.57 คือ พัฒนาระบบบริการสุขภาพให้ทุกคนบนผืนแผ่นดินไทยสามารถเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงโดยมีการใช้ทรัพยากรสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบที่ยั่งยืน และระบุว่าจะเร่งรัดพัฒนาระบบการเข้าถึงบริการสุขภาพและพัฒนาหน่วยบริการสุขภาพสำหรับประชากรที่มีความต้องการบริการรูปแบบพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงบริการสำหรับคนพิการ ประชากรที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ์ ประชากรต่างด้าว/แรงงานต่างด้าว ประชาชนตามพื้นที่พิเศษ เช่น ชายแดนห่างไกลห้าจังหวัดภาคใต้ และการสร้างเสริมสุขภาพของแรงงานนอกระบบ นั้น

ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายในการจัดการสิทธิในบริการสาธารณสุขให้แก่คนที่มีปัญหาการรับรองสถานะบุคคลตามกฎหมาย และ รมว.สธ.ลงนามแล้วเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) และหนึ่งในข้อเสนอเชิงนโยบาย คือ การเพิ่มจำนวนกลุ่มคนไร้สถานะเข้ากองทุนให้สิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขให้กลุ่มบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ตามมติ ครม. 23 มี.ค.53 แต่มีข้อผิดพลาดตรงจำนวนประชากรที่ไม่ถูกต้อง ข้อมูลที่สธ.ให้ครม.พิจารณามีเพียง 170,535 คน ซึ่งเป็นข้อมูลเก่า และน้อยกว่าข้อเท็จจริงถึง 38,096 คน

ดังนั้น 37 องค์กรด้านสาธารณสุข จึงขอเรียกร้อง

1.นพ.รัชตะ และ นพ.สมศักดิ์ ในฐานะผู้บริหารสูงสุดของสธ. แก้ไขตัวเลขจำนวนกลุ่มคนไร้สถานะให้ถูกต้อง โดยให้ใช้ข้อมูลจาก ส่วนการทะเบียนราษฎร สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ซึ่ง 36 องค์กรฯ ได้แจ้งให้ นพ.สมศักดิ์ ได้รับทราบยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 5 ก.พ. มีจำนวน 208,631 คน ดังนี้

1) กลุ่มที่มีบัตรประจำตัวประชาชน ขึ้นต้นด้วยเลข 0 ประเภททะเบียนราษฎร์ ทร.38 ก โดยเลขประจำตัวหลักที่ 6 และ 7 เป็นเลข 8 และ 9 (0-xxxx-89xxx-xx-x) ได้รับการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติในกลุ่มชนกลุ่มน้อยที่เข้ามาอยู่ไทยเป็นเวลานาน แต่ตกสำรวจ จำนวน 150,076 คน

2) กลุ่มบุตรของบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนที่เกิดในประเทศไทยและได้รับการแจ้งเกิด มีสูติบัตร ได้เลข 13 หลักเป็นบุคคลประเภท 0 (บุตรของกลุ่มที่ 1) จำนวน 56,672 ราย

3) กลุ่มคนที่ไม่สามารถพิสูจน์สถานะเกิดซึ่งนายทะเบียนได้จัดทำประวัติให้เป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน มีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 0 โดยเลขประจำตัวหลักที่ 6 และ 7 เป็นเลข 0 และ 0 (0-xxxx-00xxx-xx-x) จำนวน 1,883 คน

2.หลังจากแก้ไขจำนวนกลุ่มคนไร้สถานะที่เป็นข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว คือ 208,631 คน ขอเรียกร้องให้ นพ.รัชตะ และ นพ.สมศักดิ์ เร่งรัดเสนอเพิ่มกลุ่มคนไร้สถานะเข้าไปในกองทุนคืนสิทธิ์นี้ เข้าครม.โดยทันที โดยไม่ต้องรอนำเสนอเข้าพร้อมกับแผนยุทธศาสตร์การจัดการสิทธิในบริการสาธารณสุขของบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิในภาพรวม เพราะกลุ่มคนไร้สถานะกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ตกหล่น ยิ่งรอนานยิ่งมีผลกระทบกับประชาชน ละเมิดสิทธิมนุษยชนประชาชนมากขึ้นไปอีก และสร้างภาระให้กับโรงพยาบาลมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมา 37 องค์กรฯ เคยเข้าพบเพื่อพูดคุยและหารือกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมา 5 ครั้งแล้ว แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ แม้กระทรวงสาธารณสุขจะประกาศเป็นนโยบายตั้งแต่เมื่อครั้งรับตำแหน่ง 13 ก.ย.57 แต่เวลาล่วงเลยจนบัดนี้เวลาเกือบ 6 เดือนแล้ว ยังไร้ความคืบหน้า มีหนำซ้ำยังเสนอข้อมูลประชากรที่เป็นตัวเลขผิดให้ครม.พิจารณาอีกด้วย

3.ส่วนประเด็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่สธ.ดำเนินการนั้น 37 องค์กรฯ เห็นด้วยในการจัดทำเป็นแผนยุทธศาสตร์การจัดการสิทธิในบริการสาธารณสุขของบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิในภาพรวม แต่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ฯ ที่ผ่านมาของสธ.นั้น ขาดการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้สธ.เสนอตัวเลขกลุ่มคนไร้สถานะซึ่งเป็นตัวเลขเก่า และเป็นข้อมูลที่ผิดพลาดให้ ครม.พิจารณา ดังนั้น ขอให้กระบวนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ฯ ของสธ.เปิดกว้างให้ผู้มีส่วนร่วมได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์อย่างรอบคอบ ตอบสนองสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงด้วย

ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาด้านสิทธิขั้นพื้นฐานสาธารณสุขของกลุ่มคนไร้สถานะมีความถูกต้อง ในวันอังคารที่ 17 ก.พ.นี้ 37 องค์กรด้านสาธารณสุข จำนวน 40 คน จะยื่นหนังสือให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบสถานการณ์ปัญหา และเสนอแนวทางแก้ไข พร้อมกับเร่งรัดให้แก้ไขตัวเลขคนไร้สถานะให้ถูกต้องและเสนอเข้าครม.พิจารณาโดยทันที

หมายเหตุ 37 องค์กรด้านสาธารณสุข ประกอบด้วยองค์กรต่างๆ ดังนี้

1.       เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย(คชท.)

2.       มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) Hill Area Development Foundation (HADF)

3.       กลุ่มศิลปวัฒนธรรมกระจกเงา (The Mirror Art Group)

4.       เครือข่ายสุขภาพชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง(คสช.)

5.       สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.)

6.       มูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา

7.       คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน ภาคเหนือ(กป.อพช.ภาคเหนือ)

8.       โครงการเคียงริมโขง Khiang Rim Kong Project

9.       โครงการพัฒนาการเกษตรและการศึกษาอาข่า Development Agriculture and Education Project for the Akha (DAPA)

10.    มูลนิธิพัฒนาสตรีภาคเหนือ Northern Women’s Development Foundation

11.    มูลนิธิศึกษาพัฒนาประชาชนบนที่สูง Highland People’s Education and Development Foundation

12.    วาย.เอ็ม.ซี.เอ. เชียงราย Chiang Rai Y.M.C.A

13.    ศูนย์พัฒนาการศึกษาเพื่อลูกหญิงและชุมชน Development and Education Programme for Daughters and Communities Center

14.    เครือข่ายสุขภาพชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง(คชส.)

15.    ศูนย์พัฒนาชนบทผสมผสานเวียงป่าเป้า  Center : CBIRD WPP

16.    โครงการพัฒนาสิทธิสถานะบุคคลเพื่อสุขภาวะชุมชนลุ่มน้ำโขง – สาละวิน

17.    สมาคมเพื่อการศึกษาและวัฒนธรรมชาวอาข่า เชียงราย (AFECT)

18.    ศูนย์ศึกษาชาติพันธุ์และการพัฒนา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

19.    คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ (NGO-CORD North)

20.    ศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนบนพื้นที่สูง(ศปส.)

21.    มูลนิธิสื่อชาวบ้าน(มะขามป้อม)

22.    องค์การพัฒนาอาชีพนานาเผ่าลุ่มน้ำฝาง

23.    เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม (KNCE)

24.    เพื่อนไร้พรมแดน

25.    มูลนิธิพัฒนาเครือข่ายเอดส์ สำนักงานภาคเหนือ

26.    มูลนิธิศึกษาวัฒนธรรมและการพัฒนาชาวเขาภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

27.    สมาคมศูนย์รวมการศึกษาและวัฒนธรรมของชาวไทยภูเขาในประเทศไทย (IMPECT)

28.    สมาคมปากะเกอญอ เพื่อการพัฒนาที่ยันยืน 

29.    เครือข่ายพิทักษ์สิทธิมนุษยชนชาติพันธุ์

30.    มูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา

31.    มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย พะเยา World Vision Foundation Phayao

32.    ศูนย์สังคมพัฒนาสังฆมณฑลเชียงใหม่ เขตพะเยา

33.    ศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชน

34.    มูลนิธิเพื่อเยาวชนชนบท

35.    มูลนิธิศุภนิตแห่งประเทศไทย

36.    มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

37.    มูลนิธิภิวัฒน์สาธารณสุขไทย(ภวส.)