ผลอนุฯการเงินการการคลัง พบข้อเสนอสธ. ทำได้ กันเงินเดือนระดับเขตไม่เกิน 5%

นสพ.คมชัดลึก : เผยผลประชุม อนุฯการเงินการคลัง พบข้อเสนอสธ.ปรับงบกองทุนบัตรทองทำได้ หลังทดลองจำลองตัวเลขจริงใน 2 เขต ยึดหลักการ 2 ข้อ 1.กันเงินเดือนระดับประเทศ 1% 2.กันเงินเดือนระดับเขตไม่เกิน 5% ส่วนประเด็นที่ยังต้องพิจารณาต่อคือ ประเด็นค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐาน ต้องมีการการันตีว่าจะไม่ถูกเรียกคืน เพื่อให้หน่วยบริการวางแผนการใช้เงินได้

นสพ.คมชัดลึก : แหล่งข่าวในแวดวงสาธารณสุขกล่าว ถึงเกณฑ์การจัดสรรเงินให้แก่สถานพยาบาล ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปีงบประมาณ 2558 ว่า จากการที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) มอบหมายให้คณะอนุกรรมการพัฒนา ระบบการเงินการคลังที่มี ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เป็นประธาน จำลองตัวเลขจริงที่เขต 2 และ เขต 10 ว่าทำได้หรือไม่ พบว่าทำได้ โดย หลักการ 2 ส่วน คือ 1.การกันเงินเดือนบุคลากรสังกัด สธ.ในระดับประเทศ อัตรา 1% ของเงินเดือนบุคลากรในสังกัด หรือ 600 ล้านบาท มีคณะกรรมการการเงินการคลังของ สธ. พิจารณาจัดสรรตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และ 2.การกันเงินเดือนในระดับเขตสุขภาพ เพื่อจัดสรรงบให้แต่ละจังหวัดภายในเขตให้กันเงินไม่เกิน 5% ของเงินเดือนบุคลากรในสังกัด ซึ่งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา อนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลังได้มีการหารือเรื่องนี้ และเห็นชอบตามหลักการดังกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ส่วนการปรับค่าใช้จ่ายพื้นฐานนั้น เมื่อสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โอนเงินก้อนนี้มาให้หน่วยบริการแล้ว ต้องการันตีว่าจะไม่ถูกเรียกคืนเหมือนปีที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้หน่วยบริการวางแผนการใช้เงิน และวางแผนปรับเกลี่ยให้โรงพยาบาลที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน โดยหลักการจะไม่กันมาก เพราะจะกระทบโรงพยาบาลบางแห่ง แต่ประเด็นนี้ไม่ได้ข้อสรุป จึงได้นัดหารือกันอีกครั้งวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ ก่อนเสนอเข้าบอร์ด สปสช.วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า สำหรับเกณฑ์การกันเงินเดือนแบบเดิมนั้น เป็นไปตามประกาศงบประมาณขาลงของ สปสช.ที่ให้กันเงินร้อยละ 3 ของเงินเดือนบุคลากรในสังกัด สธ. โดยปี 2557 งบประมาณเงินเดือนทั้งสิ้นอยู่ที่ 61,000 ล้านบาท กันไว้ร้อยละ 3 หรือ 1,800 ล้านบาท ในจำนวนนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.ให้จัดงบร้อยละ 80 หรือ 1,400 ล้านบาท ให้เขตสุขภาพพิจารณาปรับเกลี่ยตามสถานการณ์การเงินในแต่ละพื้นที่ 2.งบที่เหลืออีกร้อยละ 20 หรือ 368 ล้านบาท ถือเป็นกองกลางที่คณะกรรมการการเงินการคลังระดับประเทศ พิจารณาปรับเกลี่ยตามหลักเกณฑ์

ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558