'บิ๊กเต่า' เบรกซื้อคอมพ์สปส. 400 ล. ชี้งบสูง สั่งแจงรายละเอียด

นสพ.มติชน : พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน ไม่อนุมัติ สปส.จัดจ้างติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท สั่งเลขาธิการสปส.ทบทวนโครงการพร้อมแจงรายละเอียด

เมื่อวันที่ 26 มกราคม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้เสนอเรื่องให้ลงนามในโครงการจัดจ้างติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ในวงเงินกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ตั้งเรื่องมาตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน แต่ยังไม่ลงนามอนุมัติ เนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายว่าโครงการที่เกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีให้พิจารณาถึงความจำเป็นและตอบโจทย์การใช้งานทันสมัย ดังนั้น จึงให้ สปส.กลับไปทำรายละเอียดมาชี้แจงอีกครั้ง

"ตามกฎหมายโครงการที่มีวงเงินเกิน 100 ล้านบาท ให้เป็นอำนาจรัฐมนตรีเซ็นอนุมัติ แต่ผมบอกได้เลย ถ้าโครงการไหนตอบรายละเอียดความจำเป็นและประโยชน์ที่สังคมจะได้รับไม่ได้ ผมไม่เซ็น เพราะถ้าเซ็นไปแล้วผมต้องเป็นคนรับผิดชอบ เช่นเดียวกับโครงการที่อยู่ในอำนาจของเลขาธิการ สปส. ถ้าไม่มีรายละเอียด แม้ว่าจะมีการจัดจ้างผ่านระบบอีออคชั่นไปแล้ว ก็จะไม่มีการเซ็น ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะมีปัญหาฟ้องร้องตามมาหรือไม่" พล.อ.สุรศักดิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าไม่อนุมัติ แล้วระบบคอมพิวเตอร์ล่มเหมือนที่ผ่านมาใครจะรับผิดชอบ พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า จอดำก็ต้องยอม หากโครงการดังกล่าวไม่สามารถตอบคำถามเรื่องความโปร่งใสได้ นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้ นายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ประกันสังคม พิจารณาปรับเกณฑ์การเลือกผู้แทนที่เข้ามานั่งเป็นกรรมการจะต้องไม่ซ้ำซ้อน หรือไม่ใช่บุคคลเดียวกับที่เป็นอนุกรรมการ หรือคนที่มีผลประโยชน์เกี่ยวเนื่อง เพราะที่ผ่านมา บอร์ด สปส.เกือบทุกชุด ใช้คนเดียวกันดำรงตำแหน่งทั้งในบอร์ดใหญ่และบอร์ดเล็กคือ ทั้งกรรมการและอนุกรรมการ เรื่องนี้ต้องเปลี่ยนเพื่อความโปร่งใส

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาด้วยว่าในการประชุมบอร์ด สปส.ทุกครั้ง ควรใช้ห้องประชุมที่กระทรวงแรงงานและในกรณีที่มีวาระสำคัญจะขอเข้าไปสังเกตการณ์ และเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังด้วย ส่วนกรณีความคืบหน้าการเปิดรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่ควรจะมีทางเลือกที่ 3 คือ ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท รัฐบาลจ่ายสมทบ 100 บาทนั้น เห็นว่าเรื่องนี้ถ้ารัฐบาลจะทำอะไรประชาชนต้องได้สิทธิไม่น้อยกว่าเดิม เพราะถ้าตัดสิทธิที่เคยได้จะดูไม่เป็นธรรมและสร้างความไม่พอใจให้กับสมาชิก

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 27 มกราคม 2558