ปี 58 บัตรทองได้งบเท่าเดิม มติบอร์ดสปสช.เน้น ‘คุมต้นทุน-ต่อรองราคายา’

มติบอร์ดสปสช.เห็นชอบแนวทางจัดงบปี 58 หลังได้รับงบประมาณเท่ากับปี 57ต้องเพิ่มประสิทธิภาพบริหารกองทุนทุกระดับไม่ให้กระทบผู้ป่วย ตั้งแต่ควบคุม/ปรับปรุงราคากลาง การต่อรองราคาเวชภัณฑ์  ยึดหลักผู้ป่วยต้องเข้าถึงการรักษาพยาบาล เดินหน้าเบิกจ่ายงบตรงถึงหน่วยบริการ/สถานพยาบาลเหมือนเดิม ภายใต้งบกองทุน 6 หมวด และ 9 รายการภายใต้หมวดเหมาจ่ายรายหัว

22 ก.ย.57 ณ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องแนวทางการบริหารจัดการงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2558

ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการงบกองทุนหลักประกันสุขภาพปี 2558 ซึ่งปีนี้ได้รับงบเหมาจ่ายรายหัวเท่ากับปี 2557 ดังนั้นเพื่อไม่ให้กระทบต่อการเข้าถึงบริการของประชาชน จึงต้องเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารกองทุนในทุกระดับ เช่น การควบคุมต้นทุน การควบคุม/ปรับปรุงราคากลางเวชภัณฑ์ โดยเฉพาะรายการอุปกรณ์และอวัยวะเทียม การต่อรองราคายา เช่น ยาต้านไวรัสเอชไอวี ยาตามบัญชียาหลักประเภท จ.2 ยาเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดสำหรับผู้ป่วยล้างไต พัฒนาการบริหารจัดการสำรองยา เช่น น้ำยาล้างไต ขยายขอบเขตและเพิ่มเป้าหมายการตรวจสอบการจ่าย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า และได้เห็นชอบหลักเกณฑ์การแยกและยุบรายการย่อยกรณีบริการเฉพาะ ซึ่งการจะแยกงบประมาณเพื่อบริหารจัดการเป็นการเฉพาะนั้น ยึดหลักการปกป้องการได้รับบริการนอกเครือข่ายกรณีจำเป็น เพิ่มความมั่นใจเรื่องคุณภาพบริการ รวมทั้งคุ้มครองความเสี่ยงด้านการเงินการคลังของหน่วยบริการสาธารณสุข กรณีต้องให้หรือตามจ่ายการบริการราคาแพง ยาราคาแพง ยาที่มีผู้ป่วยใช้น้อย โรคที่ต้องรักษาตลอดชีวิต และโรคที่ต้องบริการเฉพาะโรค เช่น วัณโรค และธาลัสซีเมีย ส่วนการยุบรายการเข้าระบบการจ่ายบริการทั่วไป มีหลักการว่า รายการนั้นต้องมีระบบบริการรองรับและเข้าถึงบริการสม่ำเสมอแล้ว รวมถึงมีระบบการจ่ายบริการทั่วไปที่สะท้อนต้นทุนการให้บริการเหมาะสมแล้ว       

“ดังนั้น  ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าจะยังคงได้รับบริการที่มีคุณภาพ เข้าถึงบริการที่จำเป็น ส่วนโรคเฉพาะต่างๆ ก็ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์แล้วว่า ในกลุ่มที่อาจจะมีปัญหาการเข้าถึงยาก ก็ยังต้องมีการบริหารจัดการเป็นการเฉพาะอยู่ จนกว่าจะไม่มีปัญหาแล้ว จึงจะยกเลิกได้ เช่น การผ่าตัดหัวใจที่เคยทำเป็นโรคเฉพาะ เพราะมีผู้ป่วยโรคหัวใจรอคิวมาก เมื่อดำเนินการจนกระทั่งคิวสั้นลง ผู้ป่วยเข้าถึงบริการแล้ว มติบอร์ดสปสช.ก็ยกเลิกการจัดการแบบโรคเฉพาะ” ศ.นพ.รัชตะ กล่าว

ด้าน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสปสช. กล่าวว่า งบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2558 นั้น ได้รับการจัดสรร 6 หมวด ดังนี้

1.งบเหมาจ่ายรายหัวได้รับ 2,895.09 บาทต่อประชากร ซึ่งเท่ากับที่ได้รับในปี 2557 เมื่อคำนวณจากประชากรผู้มีสิทธิ์ 48,606,000 คน รวมเป็นงบเหมาจ่ายรายหัวทั้งหมด 140,718.74 ล้านบาท โดยมีการแบ่งเป็น 9 รายการ ตามประเภทการบริการ กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ทั้งผู้รับบริการและผู้ให้บริการ เมื่อได้รับความเสียหายจากการบริการ ทั้งนี้โดยไม่มีการพิสูจน์ถูกผิด ดังนี้

1.1 งบผู้ป่วยนอก 1,056.96 บาทต่อประชากร

1.2 งบผู้ป่วยใน 998.26 บาทต่อประชากร

1.3 งบกรณีเฉพาะ 301.01 บาทต่อประชากร

1.4 งบสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 383.61 บาทต่อประชากร

1.5 งบฟื้นฟูสมรรถภาพ 14.95 บาทต่อประชากร

1.6 งบแพทย์แผนไทย 8.19 บาทต่อประชากร

1.7 งบค่าบริการทางการแพทย์ที่เบิกจ่ายในลักษณะงบลงทุน 128.69 บาทต่อประชากร

1.8 เงินช่วยเหลือเบื้องต้นตามมาตรา 41 3.32 บาทต่อประชากร

1.9 เงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้ให้บริการ 0.10 บาทต่อประชากร

2.งบบริการสุขภาพผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ 2,811.90 ล้านบาท ลดลง 135.10 ล้านบาท จากปี 2557 ที่ได้รับ 2,947 ล้านบาท

3.งบบริการสุขภาพผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 5,247.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.42 ล้านบาท จากปี 2557 ที่ได้รับ 5,178.80 ล้านบาท

4.งบบริการควบคุมป้องกันและรักษาโรคเรื้อรัง(เบาหวาน/ความดันโลหิตสูง) 908.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107.75 ล้านบาท จากปี 2557 ที่ได้รับ 801.24 ล้านบาท

5.ค่าบริการเพิ่มสำหรับสถานพยาบาลสังกัดสธ. ในพื้นที่กันดารและพื้นที่เสี่ยงภัย 464.80 ล้านบาท ลดลง 435.20 บาท จากปี 2557 ที่ได้รับ 900 ล้านบาท เนื่องจากตัดพื้นที่ประชากรเบาบางออก

6.ค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุขสังกัดสธ.เฉพาะในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 3,000 ล้านบาท

รวมเป็นเงิน 154,151.66 ล้านบาท เมื่อหักเงินเดือนภาครัฐขั้นปกติ 38,188.02 ล้านบาท คงเหลืองบกองทุน 114,963.64 ล้านบาท

หลังจากนี้ จะมีประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2558 ลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเป็นแนวทางการบริหารงบต่อไป