ยูเอ็นตั้งคณะทำงานยับยั้ง 'อีโบลา' ระบาด

กรุงเทพธุรกิจ -ยูเอ็นประกาศการระบาด อีโบลา เป็นภัยคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีมติในการประชุมฉุกเฉิน ประกาศให้การระบาดของอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้นานาชาติเร่งให้ความช่วยเหลือทันที และยกเลิกการจำกัดการเดินทางและปิดพรมแดน รวมทั้งขอให้สายการบินและบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือ ยังคงให้บริการไปยังประเทศที่มีการแพร่ระบาดของอีโบลาตามปกติ

นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ประกาศว่าจะตั้งคณะทำงานรับมือภัยฉุกเฉินอีโบลา เพื่อทำหน้าที่ประสานงานในการระดมกำลังบุคลากร ทรัพยากร และเงิน โดยคณะทำงานนี้มีภารกิจหลัก 5 ข้อ ได้แก่ หยุดยั้งการระบาด รักษาผู้ติดเชื้อ ให้การบริการการที่จำเป็น รักษาเสถียรภาพ และป้องกันการระบาดซ้ำ

องค์การอนามัยโลกแถลงว่ามีผู้เสียชีวิตด้วยไวรัสอีโบลา 2,630 รายจากผู้ติดเชื้อ 5,357 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกินี เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย นอกจากนี้ เชื้อยังแพร่ลุกลามไปยังไนจีเรียและเซเนกัล โดยในช่วงเพียงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นกว่า 700 คน ขณะที่เซียร์ราลีโอนเริ่มปิดประเทศ นาน 3 วัน โดยห้ามประชาชนส่วนใหญ่จากราว 6 ล้านคนออกนอกบ้านตั้งแต่เที่ยงคืน ยกเว้นบุคลากรที่จำเป็น เช่น แพทย์และ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และกองกำลังความมั่นคง ขณะที่ประชาชนเร่งกักตุนอาหารที่มีหน่วยงานบรรเทาทุกข์มาแจกจ่ายตั้งแต่ก่อนมาตรการปิดประเทศมีผลบังคับใช้

ระหว่างปิดประเทศ อาสาสมัครเกือบ 30,000 คนจะเยี่ยมบ้านแต่ละหลังเพื่อให้ความรู้เรื่องการรักษาสุขอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งคาดว่าจะทำให้อาจพบผู้ป่วยและศพที่ซ่อนอยู่ในบ้านเพิ่มขึ้น

ส่วนที่กินี มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและนักข่าว 7 คนที่ลงพื้นที่ให้ความรู้ป้องกันการติดเชื้ออีโบลาในหมู่บ้านต่างๆ ถูกชาวบ้านรุมขว้างปาก้อนหินและหายตัวไป ก่อนพบศพในถังบำบัดน้ำเสียของโรงเรียนแห่งหนึ่ง นายกรัฐมนตรีซาอิด โฟฟานา ประนามการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นและประกาศจะนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 20 กันยายน 2557