รมว.สธ. เผยไทยดำเนินการ Capacity Building UHC Institute เพื่อสร้างเสริมศักยภาพด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในประเทศกำลังพัฒนา สนับสนุนระบบสุขภาพโลก พร้อมทั้งหารือความร่วมมือพัฒนาระบบการแพทย์และสาธารณสุขกับสปป.ลาว 4 ประเด็น ได้แก่ การป้องกันควบคุมโรคติดต่อแนวชายแดน การพัฒนาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า พัฒนาศักยภาพโรงพยาบาล 3 แห่ง และการผลิตแพทย์เฉพาะทางสาขาศัลยกรรมและสูตินรีเวช

ศ.นพ.รัชตะ  รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ระหว่างร่วมประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน ครั้งที่ 12 (12th ASEAN Health Ministers Meeting : AHMM) ที่กรุงฮานอย ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันที่ 17-19 กันยายน 2557 ว่า ในการประชุมครั้งนี้ ไทยได้หารือทวิภาคีกับ ดร.ปูนาม เกตปาล สิงห์ (Dr. Poonam Khetrapal Singh) ผู้อำนวยการสำนักงานผู้แทนประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEARO) เกี่ยวกับความร่วมมือระบบสุขภาพในอนาคต โดยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคฯ ชื่นชมโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทย สามารถเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชน ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยได้ก่อตั้ง Capacity Building UHC Institute หรือ สถาบันพัฒนาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อสร้างศักยภาพด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น รวมทั้งสนับสนุนระบบสุขภาพโลก โดยประเทศไทยได้จัดฝึกอบรมบุคลากรด้านสุขภาพให้กับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอยู่ระหว่างการจัดทำแผนยุทธศาสตร์สุขภาพโลก ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและภาคส่วนอื่นๆ ทั้งนี้ ได้เชิญผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคฯ เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 7 ของประเทศไทยซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 ธันวาคม 2557

นอกจากนี้ ยังได้หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขประเทศลาวใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ ความร่วมมือป้องกันควบคุมโรคติดต่อตามแนวชายแดน การพัฒนาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งไทยจะให้ความร่วมมือทางวิชาการในการคำนวณต้นทุนของโรงพยาบาล เพื่อเป็นจุดตั้งต้นในการจัดการการเงินการคลังทางสาธารณสุข นำไปสู่การจัดโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในประเทศลาว ความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาล 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลโพนโฮง นครเวียงจันทร์ ขยายให้เป็นโรงพยาบาลขนาด 30 เตียง พัฒนาให้เป็นศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดและศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉินเบื้องต้น การก่อสร้างโรงพยาบาลบ่อแก้ว และโรงพยาบาลปากซอง

ประเด็นสุดท้ายคือ ความร่วมมือในการผลิตแพทย์เฉพาะทางสาขาศัลยกรรมและสูตินรีเวช เนื่องจากประเทศไทยมีนโยบายของศูนย์กลางในภูมิภาคด้านการผลิตบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งมั่นใจว่าหากประเทศเพื่อนบ้านมีศักยภาพพร้อมในการดูแลประชาชน จะช่วยให้ระบบสุขภาพของภูมิภาคอาเซียนมีความเข้มแข็ง