กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตรียมจัดประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 7 "ภาคีสุขภาพดี เวทีสู่อาเซียน” ระดมผลงานด้านวิชาการ พร้อมมอบโล่เกียรติคุณ Health Promotion Princess Award ให้แก่ 5 บุคคลต้นแบบ จาก 5 สาขาด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม ทั้งจากประเทศไทยและนานาชาติ
วันนี้ (1 กรกฎาคม 2557) นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในการแถลงข่าวการประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 7 "ภาคีสุขภาพดี เวทีสู่อาเซียน” ณ ห้องประชุมกำธร สุวรรณกิจ อาคาร 1 ชั้น 1 กรมอนามัย ว่า กรมอนามัย กำหนดจัดประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 7 ขึ้น เพื่อเป็นเวทีของการถ่ายทอด แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมในระดับชาติ และมุ่งพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน เนื่องจากเป็นเวทีรวบรวมผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและต่างประเทศที่มีความสนใจอย่างจริงจัง และมุ่งมั่นที่จะใช้ศักยภาพของตนในการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสู่ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนอย่างกว้างขวาง โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพตนเอง มีการเฝ้าระวัง และจัดการปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันไปตามบริบทของพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม โดยกราบทูลฯ เชิญ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธาน ประเด็นหลักของการประชุมวิชาการฯ ปีนี้ คือ ภาคีสุขภาพดี เวทีสู่อาเซียน โดยนำวิสัยทัศน์กรมอนามัยที่ว่า เป็นผู้นำในอาเซียนด้านระบบส่งเสริมสุขภาพและสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ เพื่อคนไทย สุขภาพดีในปี 2563 มาผนวกกับแนวคิดเรื่องการให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทั้งภายในและต่างประเทศที่เป็นพลังขับเคลื่อนเรื่องการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างเข็มแข็ง
นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมของกรมอนามัยไปสู่ประชาชน ซึ่งที่ผ่านมากรมได้ดำเนินงานโครงการสำคัญที่จะพัฒนาสู่อาเซียน อาทิ 1) โครงการศูนย์แลกเปลี่ยนเรียนรู้อนามัยแม่และเด็กแห่งประเทศไทย (Maternal and Child Health Learning center) กระทรวงสาธารณสุข ปี 2556 เพื่อเป็นสถานที่ฝึกอบรมงานอนามัยแม่และเด็ก และเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนเรียนรู้งานอนามัยแม่และเด็กของประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคอาเซียน
2) โครงการเครือข่ายอาหารปลอดภัยไทย-ลาวพร้อมก้าวสู่อาเซียนในพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์อนามัยที่ 6 ขอนแก่น ปี 2556 เพื่อร่วมกันดำเนินการเฝ้าระวังด้านสุขาภิบาลอาหาร และเป็นการเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยของอาหารในการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนของประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 3) การประชุม Chief Dental Officers กลุ่มประเทศอาเซียน เรื่องคุณภาพบริการทันตกรรมในประเทศอาเซียน กระทรวงสาธารณสุข ปี 2556 เป็นความร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพบริการทันตกรรมให้มีคุณภาพ และมีมาตรฐานเท่าเทียมกัน ทั้งภูมิภาค"
4) โครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กด้วยสมุดสีชมพู 5 ภาษา เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ได้แก่ ภาษาไทย อังกฤษ พม่า มลายูท้องถิ่น และกัมพูชา เพื่อให้ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยได้ใช้เป็นคู่มือพ่อแม่ในการดูแลสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์ 5) โครงการศึกษาการเฝ้าระวังคุณภาพอากาศภายในอาคารของสถานบริการ เพื่อเตรียมการรับการเป็นศูนย์บริการทางการแพทย์นานาชาติ (Medical Hub) และศูนย์บริการการท่องเที่ยวนานาชาติ (Tourism Hub) ของอาเซียน เพื่อศึกษาสถานการณ์คุณภาพอากาศภายในอาคารของโรงพยาบาลและโรงแรม เปรียบเทียบตัวขี้วัดคุณภาพอากาศภายในอาคารของโรงพยาบาลและโรงแรมกับมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก และ U.S Environmental Protection Agency (U.SEPA) 6) โครงการจัดตั้งคลังอาหารและโภชนาการในภาวะวิกฤติ เพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาคีด้านอาหารและโภชนาการสำหรับกลุ่มทารก เด็กก่อนวัยเรียนหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมลูก ในภาวะวิกฤติของกลุ่มประเทศอาเซียน และ 7)โครงการเมนูชูสุขภาพ ครัวไทยสู่อาเซียน เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับผู้บริโภคกลุ่มประชาคมอาเซียน เสริมสร้างให้ประชาชนชาวอาเซียนมีพฤติกรรมสุขภาพถูกต้องเหมาะสม” นพ.พรเทพ กล่าว
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าวข้างต้น เป็นเพียงภารกิจส่วนหนึ่งที่กรมอนามัยได้ดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่าย ซึ่งคาดหวังว่าภายหลังการประชุมวิชาการฯ ในครั้งนี้ กรมอนามัยจะได้มีการดำเนินงานด้านอาเซียนเพิ่มมากขึ้น อันจะช่วยให้ภารกิจงานด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมมีความครอบคลุมและพร้อมรับกับประชาคมอาเซียนในปี 2558
ด้าน พญ.แสงโสม สีนะวัฒน์ นักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ (ด้านโภชนาการ) กล่าวว่า กรมอนามัยสนับสนุนให้นักวิชาการได้ร่วมผลิตผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างสุขภาพดีให้กับคนไทยทุกกลุ่มวัย สำหรับการจัดประชุมวิชาการฯ ครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งเวทีวิชาการที่จะได้นำเสนองานวิจัย ที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างสุขภาพดีและมีการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีไปพร้อม ๆ กัน โดยปีนี้มีกิจกรรมด้านวิชาการที่หลากหลาย อาทิ การบรรยายและอภิปรายทั้งภาษาไทยและอังกฤษเกี่ยวกับสาระสำคัญที่ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น เรื่อง Health Beyond Boundary โดย ดร.นพ.สำลี เปลี่ยนบางช้าง ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในวงการแพทย์และสาธารณสุขของไทยที่มีผลงานในองค์การอนามัยโลก เรื่องสื่อสารออนไลน์อย่างไร...เมื่อไทยก้าวสู่อาเซียน โดย ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล บรรณาธิการอำนวยการ ผู้คร่ำหวอดในแวดวงการสื่อสารจากเครือบริษัทผู้จัดการ เรื่องรัก..ดูแลวัยรุ่นยุคใหม่อย่างเข้าใจ โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านธรรมชาติและพฤติกรรมเสี่ยงของวัยรุ่น เป็นต้น พร้อมทั้งการนำเสนองานวิจัยและนวัตกรรมด้านสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม จำนวน 142 เรื่อง แบ่งเป็นรูปแบบการนำเสนอด้วยวาจา จำนวน 59 เรื่อง และโปสเตอร์ จำนวน 83 เรื่อง
"นอกจากนี้ ยังมีการประทานโล่เกียรติคุณ Health Promotion Princess Award เชิดชูเกียรติสำหรับบุคคลและองค์กรต้นแบบด้านการส่งเสริมสุขภาพ และอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และศูนย์เด็กเล็กคุณภาพ โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า-ศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 5 ท่านด้วยกันคือ 1) ศาสตราจารย์เกียรติคุณพิชิต สกุลพราหมณ์ สาขาอนามัยสิ่งแวดล้อม 2) ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์สุพร เกิดสว่าง สาขาอนามัย การเจริญพันธุ์ 3) ศาสตราจารย์เกียรติคุณแพทย์หญิงคุณสาคร ธนมิตร สาขาส่งเสริมสุขภาพ 4) Prof.Cresswell J.Eastman จากประเทศออสเตรเลีย สาขาโภชนาการ และ 5) Dr.Liang Zonyu : Director International Cooperation & Exchange Department Tianjin Public Health Bureau สาขาแม่และเด็ก” พญ.แสงโสม กล่าว
สำหรับนิทรรศการภายในงานนั้น กรมอนามัยได้จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับผลงานที่ประสบความสำเร็จ เป็นต้นแบบด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมจากหน่วยงานที่ผ่านการคัดเลือกจากหน่วยงานระดับเขตทั้ง 12 แห่งของกรมอนามัย อาทิ รักนนท์ รักสิ่งแวดล้อม จังหวัดนนทบุรี ECO Hospital โรงพยาบาลศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี คลินิกรักษ์ดรุณ โรงพยาบาลตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ และบูรณาการเครือข่าย สู่ภาคีเข้มแข็ง เป็นต้น
- 463 views