สภาการสาธารณสุขชุมชน เร่งเดินหน้ากฎหมายวิชาชีพ เล็งออกเกณฑ์คุมหมออนามัย 3 สาขา ทั้งหมออนามัยด้านพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพ รักษาพยาบาลโรคทั่วไป การป้องกันควบคุมโรค และอาชีวอนามัยและอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิประชาชน ที่มารับบริการด้านสาธารณสุขจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่กระจายอยู่ ทั่วทุกภูมิภาคให้มีมาตรฐานวิชาชีพ
นายไพศาล บางชวด นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการสภาการสาธารณสุขชุมชนและเลขาธิการคณะกรรมการสภาการสาธารณสุขชุมชน กล่าวถึงความคืบหน้าการเดินหน้าพ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุข พ.ศ.2556 ภายหลังมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2556 แต่เกิดความล่าช้าจนไม่สามารถตั้งสภาวิชาชีพการสาธารณสุขอย่างเป็นทางการ เพื่อคุ้มครองหมออนามัยทั่วประเทศ ว่า ล่าสุด นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในฐานะนายกสภาการสาธารณสุขชุมชนได้เรียกประชุมคณะกรรมการสภาการสาธารณสุขชุมชน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยการประชุมดังกล่าว นพ.ณรงค์ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม แต่มอบหมายให้ นพ.ทรงยศ ชัยชนะ รองปลัด สธ. ทำหน้าที่แทน ซึ่งในที่ประชุมได้มีการหารือการจัดตั้งสภาวิชาชีพการสาธารณสุขขึ้นตามพ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุข เพื่อดูแลเจ้าหน้าที่อนามัยทั้งประเทศประมาณ 70,000 คน
นายไพศาล กล่าวว่า เมื่อมีการตั้งสภาวิชาชีพการสาธารณสุขขึ้น หลังจากนี้จะต้องเตรียมจัดหางบประมาณสำหรับการทำงานของสภาฯ ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ต้องดำเนินการรองรับ มิเช่นนั้นสภาฯ จะไม่สามารถเดินหน้าทำงานต่อไปได้ โดยเรื่องแรกคือ หาสถานที่ตั้ง ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้นพ.อภิชาติ รอดสม ผู้อำนวยการสถาบันพระบรมราชชนก เร่งจัดหาพื้นที่ตั้งสำนักงานฯ ส่วนเรื่องงบประมาณจะใช้งบฯของสำนักงานปลัดกระทรวง เบื้องต้นคาดว่าประมาณ 5 ล้านบาท
“หากมีสภาฯก็จะทำงานได้เต็มที่ โดยจะดูแลและควบคุมมาตรฐานของเจ้าหน้าที่การสาธารณสุข หรือที่เรียกกันว่าหมออนามัยให้มีใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งจะมีการแบ่งกลุ่มหมออนามัยออกเป็น 1.ด้านพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพ รักษาพยาบาลโรคทั่วไป 2.การป้องกันควบคุมโรค และ 3.อาชีวอนามัยและอนามัยสิ่งแวดล้อม หากเดินหน้าได้ก็จะทำให้หมออนามัยได้รับมาตรฐาน เป็นที่น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น” นายไพศาล กล่าว
นางทัศนีย์ บัวคำ อุปนายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข กล่าวว่า ระหว่างที่รอการจัดตั้งและหาสถานที่ทำงานของสภาวิชาชีพการสาธารณสุข ทางสมาคมวิชาชีพสาธารณสุขไม่ได้นิ่งเฉย ได้ทำงานเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพ.ร.บ.ดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หมออนามัย ได้ทราบถึงสาระสำคัญของกฎหมาย โดยจะมีการประชุมให้ความรู้เรื่องนี้ที่โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น คลาสสิค ระหว่างวันที่ 18-20 มิถุนายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมาร่วมประชุม ประมาณ 1,000 คน
- 14 views