ลอนดอน - แอสตราเซเนกา บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ปฏิเสธข้อเสนอกิจการขั้นสุดท้ายจากบริษัทไฟเซอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำของสหรัฐ เป็นครั้งที่ 3
ไฟเซอร์ อิงค์ เสนอซื้อกิจการครั้งใหม่ ที่ 55 ปอนด์ หรือหุ้นละ 92 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากข้อเสนอก่อนหน้านี้ โดยมูลค่าการเสนอซื้อแอสตราเซเนกา ในขั้นสุดท้ายอยู่ที่ประมาณ 6.9 หมื่นล้านปอนด์ หรือ 1.16 แสนล้านดอลลาร์
แต่แอสตราเซเนกา ระบุว่า ข้อเสนอดังกล่าว มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าของบริษัท
ประธานบริหารบริษัทแอสตราเซเนกา กล่าวว่าได้ปฏิเสธข้อเสนอขั้นสุดท้าย ของไฟเซอร์ เนื่องจากข้อเสนอดังกล่าว มี มูลค่าไม่เพียงพอ และจะก่อให้เกิดความ เสี่ยงอย่างมากสำหรับผู้ถือหุ้น ขณะเดียวกัน ก็จะส่งผลกระทบรุนแรงสำหรับบริษัท พนักงานและภาคธุรกิจเวชภัณฑ์ในอังกฤษ สวีเดนและสหรัฐ
แอสตราเซเนกา ระบุว่า ข้อเสนอซื้อกิจการจะต้องมากกว่า 58.85 ปอนด์ต่อหุ้น เพื่อที่บอร์ดของบริษัทจะสามารถนำเสนอแก่กลุ่มผู้ถือหุ้นได้
ข้อเสนอซื้อกิจการนี้ จุดชนวนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มนักการเมืองของอังกฤษ เนื่องจากเกรงว่า จะส่งผลกระทบต่อการวิจัยด้านเวชภัณฑ์ของแอสตราเซเนกา และทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก
รายงานข่าว ระบุว่าส่วนใหญ่แล้ว ไฟเซอร์ จะยื่นข้อเสนอควบรวมกิจการ เนื่องจาก เหตุผลด้านภาษี หากไฟเซอร์ซื้อกิจการ แอสตราเซเนกา ไฟเซอร์ จะจ่ายภาษีอัตราภาษีนิติบุคคลในอังกฤษที่อัตรา 20% แทนที่จะเป็นอัตรา 35% ที่บังคับใช้อยู่ในสหรัฐ
ทั้งนี้ แอสตราเซเนกา ถือเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจเวชภัณฑ์ของอังกฤษ ซึ่งมีมูลค่าตลาด 5.15 หมื่นล้านปอนด์ มีการจ้างงาน 30,000 ตำแหน่ง รวมถึงพนักงานโดยตรง 7,000 ตำแหน่ง ขณะที่การส่งออกของ แอสตราเซเนกา มีมูลค่าเกือบ 7 พันล้านปอนด์ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2.33%ของการส่งออกสินค้าทั้งหมดของอังกฤษ
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 21 พฤษภาคม 2557
- 1 view