สาธารณสุขเตือนประชาชนระวังป่วย โรคอุจจาระร่วงในฤดูหนาว เผยในช่วงฤดูหนาว 4 เดือนในปีที่ผ่านมาพบป่วย 352,442 ราย ผู้ป่วยครึ่งหนึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป เสียชีวิต 8 ราย ขอให้ประชาชนยึดหลักการปฏิบัติตัวป้องกันโรคนี้ โดยให้กินร้อน ใช้ช้อนกลาง และล้างมือ ล้างทำความสะอาดของเล่น ส่วนแม่หลังคลอดให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่าง 6 เดือน เด็กจะได้รับภูมิต้านทานจากแม่ จะไม่ป่วยง่าย
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ปัญหาการเจ็บป่วยของประชาชน ในช่วงฤดูหนาว ที่พบได้บ่อยทุกปีคือโรคอุจจาระร่วง ซึ่งเกิดขึ้นได้กับประชาชนทุกวัย พบมากในกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี สาเหตุเกิดได้ทั้งจากเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส โดยเชื้อไวรัสที่เป็นต้นเหตุเกิดโรคอุจจาระร่วงในฤดูหนาวคือไวรัสโรต้า (Rota Virus) มักจะพบในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี โดยเชื้อจะปนเปื้อนในอาหารและน้ำดื่ม และติดต่อกันได้ทางน้ำมูกน้ำลายของผู้ป่วยได้ด้วย เชื้อไวรัสโรต้านี้เป็นเชื้อที่พบมานานแล้ว พบได้ทั่วโลก เด็กที่ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดนำมาก่อน ต่อมาจะถ่ายอุจจาระเป็นน้ำปนฟองและมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว มีอาเจียนร่วมด้วย หากเป็นมากอาจทำให้เด็กขาดน้ำรุนแรง เสียชีวิตได้
แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อว่า เชื้อไวรัสโรต้า ติดต่อกันง่ายมาก เชื้อจะออกมากับอุจจาระเด็กที่ป่วย ติดต่อกันโดยเชื้อปนเปื้อนในอาหารและน้ำดื่ม บางครั้งเชื้อติดอยู่กับของเล่นเด็ก เมื่อเด็กหยิบเข้าปากก็ติดเชื้อได้ ดังนั้นในการป้องกันเด็กป่วย ขอให้ผู้ปกครองหมั่นล้างมือให้เด็ก ทำความสะอาดของเล่นบ่อยๆ เตรียมอาหารเด็กให้สุกด้วยความร้อน ดื่มน้ำต้มสุก ส่วนแม่หลังคลอดแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน เนื่องจากนมแม่สะอาดที่สุด และเด็กจะได้รับภูมิต้านทานโรคจากแม่ จะไม่ป่วยง่าย ส่วนในกลุ่มของประชาชนทั่วไป ขอให้รับประทานอาหารที่ปรุงสุกด้วยความร้อน หลีกเลี่ยงรับประทานอาหารที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ เช่นลาบ ก้อย ใช้ช้อนกลางตัดอาหารเมื่อรับประทานอาหารร่วมกันหลายคน และล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารและหลังจากใช้ห้องน้ำห้องส้วมทุกครั้ง โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชน เพื่อป้องกันการป่วยจากโรคดังกล่าว
ทางด้าน นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังโรคอุจจาระร่วงในฤดูหนาวปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2556 รวม 4 เดือน พบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงจำนวน 352,442 ราย โดยเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปเกือบร้อยละ 50 เสียชีวิต 8 ราย
นายแพทย์รุ่งเรือง กล่าวอีกว่า สำหรับการดูแลผู้ที่ป่วยโรคอุจจาระร่วง กรณีที่เป็นเด็ก ขอให้เด็กกินอาหารเหลวบ่อยๆ เช่น น้ำข้าวต้ม น้ำแกงจืด รวมทั้งกินนมแม่ตามปกติ เด็กที่กินนมผสมให้กินตามปกติ แต่ลดปริมาณลงครึ่งหนึ่งต่อมื้อ โดยให้กินสลับกับน้ำลายผงน้ำตาลเกลือแร่โออาร์เอสครึ่งหนึ่ง เช่นเด็กเคยกินมื้อละ 8 ออนซ์ จะปรับลดให้กินนม 4 ออนซ์ อีก 4 ออนซ์ให้กินน้ำละลายผงน้ำตาลเกลือแร่ และให้อาหารที่ย่อยง่าย เช่นข้าวต้ม อาการเด็กจะค่อย ๆ ดีขึ้นเป็นปกติได้ภายใน 8-12 ชั่วโมง หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น ถ่ายเหลวไม่หยุด เด็กซึมลง ปากแห้งมาก ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม ให้พาไปพบแพทย์โดยเร็ว ส่วนในกลุ่มประชาชนทั่วไปและผู้สูงอายุ ขอให้รับประทานอาหารตามปกติแต่ควรเป็นอ่อน ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร และให้ดื่มผงน้ำตาลเกลือแร่โออาร์เอสแทนน้ำและดื่มให้หมดภายใน 1 วันหากอาการไม่ดีขึ้น ยังถ่ายบ่อย อาเจียน รับประทนอาหารไม่ได้ กระกายน้ำมากกว่าปกติ มีไข้สูง หรือถ่ายอุจจาระเป็นมูกปนเลือด ให้รีบไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือแพทย์
- 70 views