สธ.โทษส่ง 'จนท.รมควัน-แล็บ' ตัวการทำข้าวไทยเน่า

บ้านเมือง - เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 พ.ย.56 ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข น.พ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการ "โครงการพัฒนาผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายข้าวเพื่อผู้บริโภคปลอดภัย" จัดโดย สธ.ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ โดยมีผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายข้าวสารถุงและข้าวกระสอบเข้าร่วม ว่า ความปลอดภัยเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล รวมถึงด้านอาหารปลอดภัย (Food Safety) ซึ่งอยู่ในความดูแลของ สธ. โดยขณะนี้กำลังดำเนินการทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารให้เป็นมาตรฐานของประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีในแง่การส่งออกสินค้าด้วย ยกตัวอย่าง ญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องการส่งออกสินค้าอาหาร เพราะต่างชาติมองว่าอาหารญี่ปุ่นมีความปลอดภัย ดังนั้น สธ.จะเริ่มต้นเรื่องนี้เพื่อให้เป็นมาตรฐาน รวมไปถึงเรื่องยา และสมุนไพรต่างๆ ด้วยการออกกฎหมายเพื่อกำหนดมาตรฐาน เช่น ข้าวปลอดภัยต้องมีจีเอ็มพีการผลิตอย่างไร ผู้จะได้รับมาตรฐานก็จะต้องได้รับการรับรองจากกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น

"หลังจากมีปัญหาตรวจพบสารที่ใช้รมควันเพื่อป้องกันมอดและแมลงตกค้างในข้าวสาร เมื่อช่วง มิ.ย.ที่ผ่านมา จนเกิดความตระหนก ทำให้ผู้บริโภคในประเทศขาดความเชื่อมั่นและกระทบการส่งออก ซึ่งแท้จริงแล้วปัญหามาจาก 2 ประเด็นคือ 1.มีการปนเปื้อนจริงๆ ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และปฏิบัติไม่ถูกต้องของผู้รมควันข้าวสาร และ 2.การแปลผลตรวจข้าวไม่ถูกต้อง ทำให้มีการตีความให้เข้าใจผิดและตื่นตระหนก" รมว.สาธารณสุข กล่าวและว่า สธ.จึงให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จัดการประชุมแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ทำการตรวจสอบสาร รมควันในข้าว ให้มีการอ่านและแปลผลให้ชัดเจนเพื่อสื่อสารกับสื่อมวลชนอย่างถูกต้อง และกลุ่มผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดการใช้สารรมข้าวกันมอดและแมลงอย่างถูกต้อง หากทั้งสองกลุ่มไม่มีความเข้าใจในเรื่องตรงนี้ก็จะเกิดความเสียหายตามมาได้

ด้าน นายชูศักดิ์ ว่องวิชชกร นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า การใช้สารรมควันข้าวให้ปลอดภัย หลักเกณฑ์มีอยู่ข้อเดียวคือ จะต้องใช้สารให้ถูกต้อง หมายถึงปริมาณสารต้องถูกต้องต่อปริมาณสินค้าที่ต้องการรม ปริมาตรของห้องหรือพื้นที่ในการรม ระยะเวลาและการระบายหลังการรม หากเป็นข้าวสาร การรมที่ปลอดภัยจะกำหนดปริมาณของสารเอาไว้ที่ 2 กรัมต่อกองข้าว 1 ลูกบาศก์เมตร ใช้ระยะเวลาในการรม 120 ชั่วโมง ซึ่งสินค้าแต่ละอย่างจะมีการกำหนดค่าดังกล่าวอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า น.พ.ประดิษฐ ได้มอบชุดทดสอบสารรมควันข้าวให้แก่ผู้ประกอบการข้าว ได้แก่ สมาคมโรงสีข้าวไทย 250 ชุด สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย 250 ชุด องค์การคลังสินค้า 50 ชุด องค์การตลาดเพื่อการเกษตร 50 ชุด

ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง  วันที่ 5 พฤศจิกายน 2556