สธ.เผยคนไทยป่วยเบาหวานกว่า 3.5 ล้านคน แต่ 1 ใน 3 ไม่รู้ว่าป่วย พบแนวโน้มเป็นในเด็กมากขึ้น สั่งเร่งตรวจคัดกรองเด็กอายุ 15 ปีขึ้นไปให้ครอบคลุม 90% ชี้หากไม่ควบคุมอีก 8 ปีจะมีผู้ป่วย 4.7 ล้านราย
       
วันนี้ (30 ต.ค.) นพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวการจัดกิจกรรมเนื่องในวันเบาหวานโลก (World Diabetes Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 14 พ.ย.ของทุกปี โดยปีนี้ สธ.และสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ได้กำหนดคำขวัญว่า “พิทักษ์อนาคตไทย พ้นภัยเบาหวาน (Diabetes: Protect Our Future)” ว่า โรคเบาหวานเป็นภัยเงียบของคนไทยและทั่วโลก โดยสหพันธ์เบาหวานนานาชาติ รายงานว่า ทั่วโลกมีผู้ป่วยเบาหวานมากกว่า 371 ล้านคน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดในปี 2573 จะมีถึง 552 ล้านคน โดยร้อยละ 80 อยู่ในประเทศด้อยพัฒนาและกำลังพัฒนา ส่วนไทย ผลการสำรวจสุขภาพคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ เมื่อปี 2552 พบป่วยโรคเบาหวานกว่า 3.5 ล้านคน เสียชีวิตเฉลี่ยปีละเกือบ 8,000 ราย แนวโน้มพบในเด็กมากขึ้น เนื่องจากเด็กไทยเผชิญความอ้วน และกินหวานมากขึ้น หากไม่มีการป้องกันควบคุมในอีก 8 ปีข้างหน้า จะพบผู้ป่วยถึง 4.7 ล้านราย
       
“ผู้ป่วยโรคเบาหวาน 1 ใน 3 หรือประมาณ 1.2 ล้านคน ไม่รู้ว่าตนเองเป็น เพราะไม่เคยตรวจวินิจฉัยมาก่อน และผู้ป่วยบางส่วนรู้ตัวแล้วแต่ไม่รักษา มีผู้ป่วยเบาหวานที่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติเพียงร้อยละ 29 อีกประมาณร้อยละ 70 คุมระดับน้ำตาลไม่ได้ เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ เท้าเน่า ไตวาย แต่ละปีมีค่าดูแลรักษาผู้ป่วยเบาหวานสูงถึง 47,596 ล้านบาท จึงต้องเร่งควบคุมป้องกัน ลดจำนวนคนป่วย” รมว.สาธารณสุข กล่าว
       
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า ในปี 2557 จะเน้นให้สถานบริการทั่วประเทศ ตรวจคัดกรองเบาหวานในกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไปให้ครอบคลุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 เพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยง ให้ได้รับความรู้และคำปรึกษาที่ถูกต้องในการดูแลตัวเอง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพไม่ให้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และค้นหาผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานแล้ว ให้ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 เน้นปฏิบัติตัว 3 เรื่อง คือควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการใช้ยาควบคุมอาการ โดยจะมีการตรวจเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน เช่นตาบอดจากเบาหวานขึ้นตาให้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของผู้ป่วย
       
นพ.ประดิษฐ กล่าวด้วยว่า การจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันเบาหวานโลกปีนี้ สธ.ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทุกแห่ง ร่วมมือกับโรงเรียน วัด ชุมชน และท้องถิ่น จัดกิจกรรมรณรงค์รูปแบบต่างๆ วันที่ 14 พ.ย.พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนรู้ถึงอันตรายและผลกระทบของโรคเบาหวาน สาเหตุ ปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรค การป้องกัน และชะลอการเกิดโรค และตระหนักว่าทุกคนมีโอกาสเป็นเบาหวาน หากยังกินหวานจัด ปล่อยตัวให้อ้วน ไม่ออกกำลังกาย และดื่มเหล้าจัด สำหรับผู้ป่วยเบาหวานจะเน้นการให้ความรู้วิธีการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม และสัญญาณเตือนอันตรายต่างๆ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน และให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม. ตรวจคัดกรองเบาหวานแก่ประชาชนทั่วไปที่ยังไม่เคยได้รับบริการและกลุ่มเสี่ยง พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการดูแลที่เหมาะสมต่อไป
       
ศ.เกียรติคุณ พญ.วรรณี นิธิยานันท์ นายกสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า สมาคมฯได้ร่วมรณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงภัยคุกคามจากโรคเบาหวาน มีความตื่นตัวการดูแลสุขภาพ รู้วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรค และในกรณีที่เป็นโรคเบาหวานแล้ว หากดูแลรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก และควบคุมให้ได้ตามแผนการรักษาของแพทย์ จะช่วยลดอัตราความพิการ การเสียชีวิต สามารถใช้ชีวิตใกล้เคียงกับคนปกติทั่วไป
       
พญ.สุภาวดี ลิขิตมาศกุล ประธานศูนย์เบาหวานศิริราช กล่าวว่า ผู้ป่วยเบาหวานในไทยร้อยละ 95 เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เกิดมาจากการกิน ขาดการออกกำลังกาย และพบเบาหวานที่เกิดมาจากกรรมพันธุ์ หรือเรียกว่าโรคเบาหวานชนิดที่ 1 พบได้ร้อยละ 4 ขณะนี้ผู้ป่วยที่รับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นกลุ่มอายุ 18 ปีหรือน้อยกว่า เกือบร้อยละ 3 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 มีสาเหตุเกิดจากเซลล์ตับอ่อนหยุดผลิตฮอร์โมนอินซูลิน พบมากในคนอายุน้อยกว่า 25 ปี ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเบาหวานเฉียบพลัน มีภาวะเลือดเป็นกรด ระดับน้ำตาลในเลือดสูง อาการรุนแรง เมื่อแรกเริ่มเป็น ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที อาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้