"ผมยินดีทำงานร่วมกับทุกฝ่าย เตรียมใจที่มาทำงานตรงนี้ ไม่คิดว่าต้องหนักใจอะไร ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด"

เมื่อวันอังคารที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ดำรงตำแหน่ง ผอ.องค์การเภสัช กรรม (อภ.) คนใหม่ โดยในวันจันทร์ที่ 2 ก.ย.นี้ จะมีการทำสัญญาจ้างอย่างเป็นทางการ "หมอสุวัช" คงเริ่มปฏิบัติงานทันที มาดูกันว่า ผอ.อภ.คนนี้พร้อมแค่ไหนกับตำแหน่งที่ท้าทายและสารพัดปัญหากองอยู่ข้างหน้ารอการสะสาง

นพ.สุวัช กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารก็ต้องมีภารกิจที่ต้องดำเนินการให้สำเร็จ อภ.ก็เช่นเดียวกัน เท่าที่ทราบจะต้องเสนอแผนดำเนินการภายใน 30 วัน ในการทำงานคงจะบริหารจัดการให้เป็นไปตามนโยบายของกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) และสอดคล้องกับการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข ขณะเดียวกันก็ทำให้งานของ อภ.เดินไปข้างหน้า

สำหรับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใน อภ.คงต้องไปแก้ว่าติดขัด ตรงไหน อย่างไร ตรงไหนจะต้องกำกับให้เป็นไปตามระยะเวลา ก็ต้องกำกับดูแลในภารกิจของงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ เช่น เรื่องโรงงานวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โรงงานผลิตยา การพัฒนาระบบยา

หนักใจหรือไม่ที่ถูกจับตาการทำงานเพราะบางคนมองว่ามีการเมืองหนุนหลัง?

ผมยินดีทำงานร่วมกับทุกฝ่าย เตรียมใจที่มาทำงานตรงนี้ ไม่คิดว่าต้องหนักใจอะไร ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด การมาทำงานตรงนี้ก็ต้องมีความรับผิดชอบทำให้องค์กรเคลื่อนไปข้างหน้า

มีสารพัดปัญหารอการสะสางอาจถึงขั้นปฏิรูปองค์กรใหม่?

ผมคิดว่าทุกหน่วยงานก็ต้องมีการพัฒนา ตอนนี้กระทรวงสาธารณสุขเองก็มีแนวทางในการพัฒนาไปค่อนข้างเยอะ ดูในส่วนของ อภ.ถ้าตรงไหนต้องพัฒนาให้ดีขึ้นทำให้องค์กรดีขึ้นคงทำตรงนั้น ซึ่งต้องเป็นการทำงานร่วมกันกับบุคลากรของ อภ. ที่มีอยู่ประมาณ 3,000 คน ดังนั้นต้องมาทำความเข้าใจกัน ผมยินดีรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย และทำให้ อภ. เป็นรัฐวิสาหกิจที่ต้องรับผิดชอบเรื่องยาในบ้านเราให้เป็นที่ยอมรับของทุก ๆ ฝ่าย

แล้วเรื่องที่เป็นปัญหาและมีการสอบ สวนอยู่?

ตรงนั้นก็ต้องทำข้อเท็จจริงให้ชัดเจน เพื่อจะได้เดินหน้าต่อ ผมจะพยายามทำให้ชัดเจน ดูว่ามีจุดไหนที่ต้องสรุปและหาวิธีการแก้ไขใหม่ก็ต้องทำให้ชัดเจน

ถ้าบุคลากรของ อภ.เข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร?

ผมขอไปดูข้อมูลก่อน ยังไม่อยากลงลึกในรายละเอียด เพราะผมก็ยังไม่มีข้อมูลเชิงลึกตรงนั้น แต่อันไหนที่เป็นประโยชน์คงดำเนินการในส่วนนั้น

สำหรับความล่าช้าในหลาย ๆ โครงการ ตรงไหนที่ชัดเจนแล้ว ก็ดูแลกำกับให้เป็นไปตามนั้น ตรงไหนต้องหาแนวทางการแก้ไขจะต้องสรุปข้อมูลเพื่อความชัดเจนและเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาไปข้างหน้าต่อไป

เรื่องภาพลักษณ์ของ อภ.?

ผมจะพยายามเข้าไปสร้างความเชื่อมั่นให้มากขึ้น จริง ๆ แล้ว อภ.ก็เป็นรัฐ วิสาหกิจที่มีภาระ พันธกิจที่ตั้งไว้ตาม พ.ร.บ. องค์การเภสัชกรรม ก็จะดำเนินการตรงนั้น อันไหนที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมของระบบสาธารณสุขในประเทศ อภ.จะเป็นส่วนสนับสนุนให้ระบบสาธารณสุขของประเทศพัฒนาต่อไปได้

มีนโยบายเรื่องความโปร่งใสขององค์กรอย่างไร?

ตรงนี้เป็นจุดหนึ่งที่ผมได้ไปแสดงแนวคิดต่อกรรมการสรรหา คือ การทำให้อภ.โปร่งใส ตรวจสอบได้ คิดว่าเป็นส่วนที่สำคัญเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับองค์กร

กังวลหรือไม่ว่าบุคลากรบางส่วน อาจต่อต้านไม่ให้ความร่วมมือ?

ผมไม่สามารถคาดเดาได้ แต่คิดว่าบุคลากรของหน่วยงานทุกคน คงจะมีความหวงแหน ผูกพันกับองค์กร เพราะฉะนั้นการที่จะพัฒนา หรือทำให้องค์กรเดินหน้าทุกคนน่าต้องสร้างความเข้าใจร่วมกันและช่วยกันมองว่าตรงไหนจะเป็นประโยชน์สำหรับองค์กร แล้วช่วยกันทำให้มันดีที่สุด เรื่องตัวบุคคลผมไม่สามารถไปบอกได้ แต่หลักการทำงานจะต้องสร้างความเข้าใจร่วมกันเพื่อที่จะได้พัฒนางานขององค์กร อภ.มีบุคลากรที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย รวมทั้งสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรมด้วย ทุกคนมีส่วนร่วมใน อภ. ดังนั้นอะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์ผมพร้อมรับฟัง

อยากจะสื่อสารอะไรไปยังพนักงาน อภ.?

ผมยินดีรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย อันไหนที่คิดว่าเป็นประโยชน์ก็จะนำมาพัฒนา อันไหนเป็นเรื่องที่ถูกต้องก็คงดำเนินการ เป็นหลักการทำงานง่าย ๆ ผมเป็นคนง่าย ๆ อยู่แล้ว ใครมีข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ก็ยินดี อยากจะให้ทุกคนพยายามสร้างความเข้าใจร่วมกัน และอยากให้เชื่อมั่นการพัฒนาองค์กร

สำหรับพี่น้องประชาชนอยากเรียนว่า อภ.เป็นหนึ่งในระบบยาของบ้านเรา สิ่งสำคัญคือการอภิบาลระบบคือ ประชาชนจะต้องมียาราคาเหมาะสม คุณภาพดี และมีพร้อมในภาวะที่จำเป็นต้องมีการสำรองยาที่เพียงพอ ซึ่ง อภ.ทำในส่วนนี้อยู่แล้ว

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 1 กันยายน 2556