กระทรวงสาธารณสุขระบุหน้าฝนเป็นฤดูกาล การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ย้ำหน้าฝนนี้ประชาชน กลุ่มเสี่ยงหลักๆ สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ได้ฟรี ณ จุดให้บริการทั่วประเทศ ขณะนี้เปิดให้บริการแล้ว เตือนคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงอย่านิ่งนอนใจ เพราะการป่วยไข้หวัดใหญ่หากเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง อาจทำให้เสียชีวิตได้ในเวลาอันสั้น ล่าสุด สามารถมีผู้มารับการฉีดวัคซีนแล้ว 1.6 ล้านคน
ดร.นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเป็นฤดูกาล การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว ทำให้ประชาชนสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโรคหวัดใหญ่ได้ง่ายถึงแม้ปัจจุบันจะยังไม่พบการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยก็ตาม แต่ที่ผ่านมาเมื่อประชาชนป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ในระยะเริ่มต้น มักนิ่งนอนใจและคิดว่าซื้อยามารับประทานเอง ไม่นานก็จะหายเป็นปกติ ความจริงแล้วโรคไข้หวัดใหญ่ คือ ภัยร้ายที่อาจนำมาซึ่งความเจ็บป่วยต้องเข้านอนโรงพยาบาล และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจนสามารถคร่าชีวิตของผู้ป่วยได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยเฉพาะผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ในแต่ละปีประเทศไทยจะมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ กว่า 9 แสนราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ภาวะปอดบวมจนถึงขั้นเสียชีวิต ถึงร้อยละ 3 ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่าเก้าแสนล้านบาท
ในปี 2556 นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 3,500,000 โด๊ส เพื่อให้บริการ ฟรีแก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ 1.บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ที่ทำงานสอบสวนควบคุมโรคเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทำลายซากสัตว์ปีกและสัตว์อื่นที่สงสัยติดเชื้อไข้หวัดนก เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลและอาจเป็นผู้แพร่โรคต่อไปยังผู้อื่นได้พร้อมๆ กัน 2.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ทุกกลุ่มอายุและทุกสิทธิการรักษา ได้แก่ หอบหืด ปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจ ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย เบาหวาน หลอดเลือดสมอง และผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด 3.ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ขึ้นไปทุกคนนอกจากนี้ยังมีกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ที่สำคัญและควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ หญิงมีครรภ์อายุ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี ทุกคน ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ รวมทั้งคนที่เป็นโรคอ้วนที่น้ำหนักตัวมากกว่า 100 กก. หรือ BMI มากกว่า 35 กก.ต่อตารางเมตร
อธิบดีกรมควบคุมดรค กล่าวต่ออีกว่า เพื่อให้การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ในประชากรกลุ่มเสี่ยงหลักๆ ภายใต้การให้บริการที่มีประสิทธิภาพสามารถดำเนินงานได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึงส่งผลให้การป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ซึ่งเป็นโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนลดลงตามเป้าหมาย จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและผู้ที่อยู่ในข่ายต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกคนไปขอรับบริการฉีดวัคซีนได้ฟรี! ได้ที่หน่วยให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขใกล้บ้าน เช่น โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล(รพ.สต.) หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ คลินิโรคเรื้อรัง หรือคลินิกพิเศษฯลฯ ซึ่งได้เปิดให้บริการเป็นเวลารวมทั้งสิ้น 4 เดือน และได้เริ่มมาแล้วตั้งแต่ 27 พฤษภาคม 2556 และจะสิ้นสุดการให้บริการในวันที่ 30 กันยายน 2556 นี้
ส่วนประชาชนทั่วไปถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ก็ต้องรู้จักการป้องกันตัวเองจากโรคไข้หวัดใหญ่ด้วย โดยสามารถทำได้หลายวิธีคือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ หากมีอาการไอจาม ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชูปิดปาก ปิดจมูก ล้างมือบ่อยๆ หรือทุกครั้งที่มือเปื้อนน้ำมูกน้ำลาย ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และผู้ที่ป่วยควรหยุดงาน หยุดเรียนพักรักษาตัวจนกว่าจะหาย
ด้าน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำฤดูกาลว่าล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้กระจายการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่กลุ่มเสี่ยงทั่วประเทส แล้ว 1.6 ล้านคน คาดว่าจะเร่งดำเนินการฉีดให้ครบตามเป้าหมาย และกรอบระยะเวลาที่กำหนด
"แม้จะพ้นเดือนกันยายนไปจนถึงพฤศจิกายน หรือ ธันวาคม ก็ยังสามารถดำเนินการฉีดวัคซีนได้ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงระบาดของโรค ตั้งแต่ฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว โดยวัคซีนยังไม่หมดอายุ จึงไม่ต้องกังวล สำหรับวัคซีนที่ใช้ในปีนี้เป็นชนิดรวม ป้องกันไข้หวัดใหญ่ซึ่งพบมากที่สุดในประเทศไทย 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์เอ H1N1 ชนิดเอ H3N2 และชนิดบี หลังฉีดจะมีผลป้องกันโรคเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งจะลดการป่วยหรือลดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากโรคไข้หวัดใหญ่ได้"
ส่วนข้อห้ามในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่นั้น นพ.โอภาส อธิบายว่าโดยทั่วไปจะมีข้อห้ามสำหรับบุคคล 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.เด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน 2.ผู้ที่เคยแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือสารประกอบอื่นๆ หรือแพ้ไข่ไก่ แพ้ไก่อย่างรุนแรง 3.ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเฉียบพลัน มีไข้ 4.ผู้ที่มีโรคประจำตัวในระยะกำเริบ 5.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์น้อยกว่า 4 เดือน หรือมีภาวะครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง จึงขอแนะนำให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังปรึกษาแพทย์ที่ดูแลรักษาเป็นประจำ ก่อนรับการฉีดวัคซียน
ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปหรือกลุ่มเสี่ยงสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด หรือที่สายด่วน สปสช. โทร. 1330 หรือที่สายด่วน กรมควบคุมโรค หมายเลข 1422
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันทีท 9 สิงหาคม 2556
- พรเทพ ศิริวนารังสรรค์
- กรมควบคุมโรค
- โรคไข้หวัดใหญ่
- ฤดูฝน
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
- หญิงมีครรภ์
- เด็ก
- ผู้พิการทางสมอง
- ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย
- ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ติดเชื้อHIV
- โรคอ้วน
- โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล(รพ.สต.)
- หน่วยแพทย์เคลื่อนที่
- คลินิโรคเรื้อรัง
- คลินิกพิเศษ
- โอภาส การย์กวินพงศ์
- 15 views