นายแพทย์ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์มะเร็งตับในไทยเพิ่มสูงขึ้นมาก ปัจจุบันพบว่ามะเร็งตับเป็นโรคที่พบเป็นอันดับ 1 ใน เพศชายและเป็นอันดับ 3 ในเพศหญิง โดยเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของประเทศไทย ทั้งนี้มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 20,000 ราย จากข้อมูลองค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าในปี 2553 มีผู้ป่วยมะเร็งตับในประเทศไทย 23,410 ราย เสียชีวิต 20,334 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 55 ราย หรือชั่วโมงละ 2 ราย และคาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า (ปี 2573) จำนวนผู้ป่วยมะเร็งตับจะเพิ่มขึ้นเป็น 33,517 ราย เสียชีวิต 31,028 ราย คิดเป็นอัตราเสียชีวิตวันละ 70 ราย หรือชั่วโมงละ 3 ราย
มะเร็งตับในระยะแรกมักไม่ปรากฏอาการ แต่เมื่อก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่มากขึ้นหรือกระจายไปยังอวัยวะข้างเคียง อาจทำให้เกิดอาการเบื่ออาหาร อึดอัด แน่นท้อง ท้องโต ตัวเหลือง ตาเหลือง น้ำหนักลด ทั้งนี้สาเหตุของการเกิดมะเร็งตับ นอกจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซีแล้ว ยังมีโรคพยาธิใบไม้ตับจากการรับประทานปลาน้ำจืดสุกๆ ดิบๆ ภาวะตับแข็งจากแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์สามารถป่วย เป็นโรคนี้ได้จากการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีการ ปนเปื้อนเชื้อราหรือสาร อัลฟาท็อกซิน มักพบใน ถั่วลิสง พริกแห้ง และกระเทียม ที่เก็บไว้นาน
ด้าน นายแพทย์ระวิศักดิ์ จันทร์วาสน์ ศัลยแพทย์มะเร็งระบบทางเดินอาหารและตับ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า มะเร็งตับ เป็นโรคที่ก่อตัวและทำร้ายตับอยู่เงียบๆ ผู้ป่วยมะเร็งตับในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่มาพบแพทย์ในระยะที่โรคลุกลามมากจึงไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะผู้ป่วยไม่ทราบถึงปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งตับ จึงไม่ได้รับการตรวจคัดกรองในระยะเริ่มต้น ซึ่งโรคมะเร็งตับสามารถรักษาให้หายขาดได้หากตรวจพบในระยะเริ่มแรก บุคคลสำคัญๆ ที่ต้องเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับไปก่อนวัยอันควร เช่น ดีเจ.โจ้ เสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับด้วยวัยเพียง 35 ปี หลังทราบและรักษาตัวอยู่เพียง 3 เดือน ยอดรัก สลักใจ ขุนพลเพลงลูกทุ่งไทย ป่วยด้วยโรคมะเร็งตับ เช่นกัน รวมถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของไทย ซึ่งจะเห็นว่า ผู้ป่วยมะเร็งตับมีอยู่ทุกช่วงอายุไม่เฉพาะแต่ผู้สูงอายุเท่านั้น คนทุกวัย ทุกช่วงอายุ ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการป่วยด้วยมะเร็งตับทั้งสิ้น
โรคมะเร็งตับ ไม่ใช่โรคที่ไกลตัว ถือเป็นโรคที่พบบ่อยในคนไทย เป็นมะเร็งชนิดที่มีความรุนแรงและรักษายาก พบได้บ่อยมี 2 ชนิด คือ มะเร็งเซลล์ตับ (Hepatocellular carcinoma) และมะเร็งเซลล์ท่อน้ำดี (Cholangiocarcinoma) สาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยป่วยเป็นมะเร็งตับคือ มีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีสูง ซึ่งผู้ที่ติดไวรัสตับอักเสบบีรวมทั้งผู้เป็นพาหะจะมีภาวะตับอักเสบเรื้อรัง หรือตับแข็ง ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับมากกว่าคนปกติ 100-200 เท่า และผู้ป่วยโรคตับแข็งจากสาเหตุอื่นทุกชนิด เช่น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ผู้ดื่มแอลกอฮอล์ คนอ้วนสะสมไขมันพอกตับ ผู้บริโภคสารอัลฟาท็อกซิน (Aflatoxin) ซึ่งพบปนเปื้อนอยู่ในถั่วลิสง ข้าวโพด พริกแห้ง กระเทียม เต้าเจี้ยว เต้าหู้ยี้ เป็นสารก่อมะเร็ง เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งตับ และผู้ที่นิยมบริโภคปลาน้ำจืดสุกๆ ดิบๆ
ซึ่งมีพยาธิใบไม้ตับอยู่ ดังนั้นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้จึงควรได้รับการตรวจรักษา ตรวจ คัดกรองอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันโรค ที่เป็นอยู่ไม่ให้ลุกลามกลายเป็นมะเร็งตับ
มะเร็งตับเป็นภัยเงียบที่พบได้บ่อย จึงไม่ควรรอให้โรคลุกลาม หากสงสัยว่าเราหรือบุคคลใกล้ชิดอยู่ในข่ายของปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซี ชอบบริโภคปลาน้ำจืดสุกๆ ดิบๆ ชอบดื่มแอลกอฮอล์ บริโภคอาหารปนเปื้อนเชื้อรา เป็นคนอ้วนสะสมไขมัน ควรรีบไปปรึกษาและขอคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อให้ปลอดภัยจาก "มะเร็งตับ"
ที่มา--มติชน ฉบับวันที่ 5 ส.ค. 2556 (กรอบบ่าย)--
- 98 views